แพลททินัม ฟรุ๊ต โชว์ผลสำเร็จ “ลำพูนโมเดล” ช่วยยกระดับชาวสวนลำไยสู่นักปลูกมืออาชีพ   เตรียมเดินหน้าขยายพื้นที่โครงการจาก อ.ลี้ สู่ อ.แม่ทา หวังปั้นลำไยอีดอเป็นพระเอกส่งออก ชูจุดเด่น หวานกรอบ หอมอร่อย ไซส์ตอบโจทย์ผู้บริโภค

นายณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด (มหาชน) หรือ PTF ผู้ส่งออกผักและผลไม้สดเกรดพรีเมียม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน แพลททินัม ฟรุ๊ต รับซื้อลำไยจากชาวสวนเพื่อส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะลำไยสดช่อคุณภาพเกรด AA และ A สินค้าเกรดพรีเมียมที่ตลาดต่างประเทศมีความต้องการบริโภคสูง ทั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน อินโดนีเซีย รวมถึงอินเดีย ล่าสุดบริษัทฯ ได้ส่งออกลำไยเกรดพรีเมียมไปยังสหราชอาณาจักรเพิ่มเติมด้วย ซึ่ง “ลำไยอีดอ” จะเป็นสายพันธุ์หลักที่บริษัทฯ ส่งออก เพราะรสชาติหวานกรอบ หอมอร่อย 

อย่างไรก็ตาม กุญแจสำคัญที่จะช่วยชาวสวนลำไยภาคเหนือหลุดพ้นจากปัญหาวงจรราคาอย่างยั่งยืน คือ การเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้ดียิ่งขึ้น สังเกตได้ว่าราคารับซื้อลำไยเบอร์บนเกรดพรีเมียม A, AA มีความห่างจากราคาลำไยเบอร์ล่างเยอะมาก เหตุเพราะลำไยพรีเมียมยังเป็นที่ต้องการและมีตลาดรองรับอยู่มาก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีจำนวนประชากรและปริมาณการบริโภคสูง ซึ่งทางบริษัทฯ เห็นช่องว่างตรงนี้จึงอยากที่จะนำองค์ความรู้เข้าไปช่วยชาวสวนพัฒนาผลผลิตต่อไร่ให้ได้ตามเกรดส่งออกมากขึ้น 

“ในปีที่ผ่านมา แพลททินัม ฟรุ๊ต มีการพัฒนาโมเดลแก้ปัญหาและช่วยพัฒนาองค์ความรู้ในการยกระดับคุณภาพผลผลผลิตลำไยของชาวสวนให้เป็นไปตามมาตรฐานส่งออก ภายใต้ชื่อ “ลำพูนโมเดล” บนพื้นที่จำนวน 150 ไร่ ในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าเป็นไปได้ด้วยดีตามเป้า จึงได้มีการขยายพื้นที่ความร่วมมือเฟสต่อเนื่องไปยังเครือข่ายชาวลำไยแปลงใหญ่แม่ทา จังหวัดลำพูนด้วย ส่งผลให้ปัจจุบันมีสวนลำไยที่เข้าร่วมโครงการลำพูนโมเดลรวม 350 ไร่ โดยเรามุ่งหวังว่าจะช่วยให้ลำไยภาคเหนือมีคุณภาพผลผลิตต่อไร่ที่ดีมากยิ่งขึ้นต่อไป” นายณธกฤษ กล่าวเสริม

กระบวนการลำพูนโมเดล ประกอบด้วย  1.หารือร่วมกับชาวสวนที่ต้องการพัฒนาลำไยให้ได้เกรดส่งออก โดย แพลททินัม ฟรุ๊ต มีทีมงาน R&D เข้าไปร่วมสำรวจสวน ให้คำแนะนำกับชาวสวนที่สนใจ 2.พาไปดูงานตัวอย่างสวนลำไยที่อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ให้เห็นวิถีการทำเกษตรเชิงอุตสาหกรรม เพื่อนำองค์ความรู้ แนวทางปฏิบัติไปยกระดับคุณภาพสวนลำไยของตนเองเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น และผลิตได้ตามมาตรฐานส่งออก ซึ่งการดูงานทางบริษัทฯ เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด

3. คัดเลือกชาวสวนที่ต้องการทำตามโปรแกรมที่บริษัทฯ ออกแบบร่วมกับนักวิชาการเกษตร คือ ให้เลือกทดลองพัฒนาตามความสมัครใจ ระหว่าง ปลูกลำไยในฤดู และ ปลูกลำไยนอกฤดู 4. ชาวสวนแต่ละรายต้องแบ่งพื้นที่ 5 ไร่มาทำแปลงทดลองเพาะปลูกตามโปรแกรมที่กำหนด โดย แพลททินัม ฟรุ๊ต สนับสนุนองค์ความรู้ ส่งมีทีม R&D ช่วยดูแลให้คำปรึกษาแนะนำการพัฒนาที่เหมาะสมกับสวนแต่ละแห่งอย่างใกล้ชิด จากนั้นจะมีการติดตามวัดผลต่อเนื่อง

การดำเนินโครงการลำพูนโมเดล สอดรับตาม Business Model ของ แพลททินัม ฟรุ๊ต ที่มุ่งพัฒนา New Economic System ให้ธุรกิจส่งออกผลไม้ไทยเติบโตพร้อมกันทั้งระบบซัพพลายเชน ที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับการนำ Knowledge & Knowhow ที่เป็นวิทยาศาสตร์ไปช่วยสนับสนุนภาคการเกษตร เพื่อสร้างให้เกิดความยั่งยืน “คุณภาพผลผลิตที่ได้ตามความต้องการของตลาด - คุณภาพชีวิตเกษตรกรที่ดีขึ้นจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น – คุณภาพชีวิตผู้บริโภคที่ได้รับประทานผลไม้สด รสชาติอร่อย ปลอดภัยจากสารปนเปื้อน” ตามวิสัยทัศน์ Growing Together Fruitfully

ขณะที่กลุ่มเกษตรกรลำไยแม่ทา เดินหน้าพัฒนาคุณภาพผลผลิต ร่วมโครงการ “ลำพูนโมเดล” กับแพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด หวังเชื่อมโยงตลาด-ลดความเสี่ยงราคาตกต่ำ

นายดำรง จินะกาศ ประธานกลุ่มเกษตรกรลำไยแปลงใหญ่แม่ทา จังหวัดลำพูน และเกษตรกรต้นแบบเจ้าของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพ (ศพก.) การผลิตลำไยคุณภาพ อำเภอแม่ทา เปิดเผยว่า ในปีนี้ลำไยออกผลผลิตจำนวนมากเนื่องจากสภาพอากาศและปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสม ทำให้ผลผลิตออกตามธรรมชาติในปริมาณสูง ส่งผลให้ราคาลำไยตกต่ำ โดยบางช่วงราคาลำไยอยู่เพียง 9 บาท 4 บาท หรือแม้แต่ 1 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าต้นทุนการผลิตอย่างมาก

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพผลผลิตและรักษาเสถียรภาพด้านรายได้ของเกษตรกร กลุ่มลำไยแม่ทาจึงได้เข้าร่วมโครงการ “ลำพูนโมเดล” โดยเน้นการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ การจัดการปัจจัยการผลิต และการเชื่อมโยงตลาดอย่างครบวงจร

นายดำรง กล่าวว่า กลุ่มเกษตรกรแม่ทาได้สมัครใจเข้าร่วมโครงการกับบริษัทแพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด โดยเริ่มจากการเปิดรับสมาชิกเกษตรกรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม เช่น มีแหล่งน้ำ พัฒนาสวนลำไยเบื้องต้นแล้ว และยินดีให้ตรวจพื้นที่ เพื่อให้ได้มาตรฐานตามโครงการ ขณะนี้มีเกษตรกร 22 ราย พื้นที่รวมกว่า 100 ไร่เข้าร่วม

“แม้เกษตรกรในกลุ่มเราจะมีประสบการณ์ในการทำนอกฤดูอยู่บ้าง แต่ยังขาดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพผลผลิต เราจึงเห็นความสำคัญของการถ่ายทอดความรู้จากบริษัท ทั้งในด้านการดูแลต้น การราดสาร การวางแผนผลผลิตให้ออกพร้อมกัน และการใช้ปุ๋ย ยา และฮอร์โมนที่มีคุณภาพ ซึ่งบริษัทได้คัดเลือกมาในราคาที่โปร่งใส” นายดำรงกล่าว

นอกจากการจัดการผลิตที่เป็นระบบแล้ว สิ่งสำคัญที่เกษตรกรต้องการคือการเชื่อมโยงตลาดปลายทางอย่างมั่นคง “ต่อให้ผลผลิตดีแค่ไหน ถ้าไม่มีตลาดรับซื้อ ก็ไปไม่รอด ตอนนี้แรงงานก็ขาดแคลน เกษตรกรส่วนใหญ่ก็เป็นผู้สูงอายุ ลูกหลานทำงานในนิคม กลับบ้านเสาร์-อาทิตย์ ราคาลำไยก็ผันผวนอีก” นายดำรงกล่าว

ภายใต้โครงการนี้ เกษตรกรยังคงมีสิทธิ์เลือกว่าจะจำหน่ายผลผลิตให้กับบริษัทหรือไม่ แต่ในกรณีที่ได้รับเครดิตปัจจัยการผลิตจากบริษัท จะต้องชำระคืนตามที่ตกลงไว้ โดยไม่กระทบสิทธิในการขายผลผลิต

“สิ่งที่เกษตรกรต้องการที่สุดคือ เมื่อเราทำตามมาตรฐานแล้ว จะมีตลาดรับซื้อแน่นอน และสามารถเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้เราก้าวข้ามปัญหาเดิมๆ และสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับเกษตรกรลำไยแม่ทาทุกคน” นายดำรง กล่าวทิ้งท้าย

อนึ่ง บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด (มหาชน) หรือ PTF ประกอบธุรกิจหลักในการส่งออกผักและผลไม้สดเกรดพรีเมียม เช่น ทุเรียน ลำไย มังคุด มะพร้าว สามารถดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่จัดหาสินค้าเกษตรที่มี “คุณภาพ” โดยคัดเลือกจากสวนผลไม้ที่มีมาตรฐาน GAP และ Global GAP รับรอง มีการลงทุนระบบโลจิสติกส์ในรูปแบบ One Stop Service ทำให้มีตลาดส่งออกผลไม้สดกระจายอยู่ทั้งในเอเชีย ยุโรป อาทิ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินโดนีเซีย อินเดีย นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร เป็นต้น