News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
เชียงใหม่ สรุปผลการลดอุบัติเหตุปีใหม่ 64 พร้อมถอดบทเรียน ปรับมาตรการให้เหมาะสมกับพื้นที่
จังหวัดเชียงใหม่ สรุปผลการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 พบมีผู้เสียชีวิตลดลง ในขณะที่จำนวนครั้งในการเกิดอุบัติเหตุ และผู้บาดเจ็บสูงสุดของประเทศ เตรียมถอดบทเรียนและวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุ เพื่อปรับแนวทางและมาตรการให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่
วันนี้ (5 ม.ค. 64) ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสรุปผลการปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 ซึ่งได้กำหนดช่วง 7 วันอันตรายไว้ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2563 - 4 มกราคม 2564 พบว่า เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 115 ครั้ง เพิ่มมากกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 1 ครั้ง ผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 117 คน เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี และผู้เสียชีวิต 11 ราย น้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี 2 ราย ทำให้ในภาพรวมของประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และมีผู้บาดเจ็บสูงที่สุด ส่วนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดได้แก่จังหวัดเชียงราย
ขณะที่สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ ที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่เกิดจากเมาแล้วขับ การขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และสาเหตุจากทัศนวิสัยในการขับขี่ โดยรถจักรยานยนต์ยังเป็นยานพาหนะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ขณะที่อุบัติเหตุส่วนใหญ่พบในถนน อบต. / หมู่บ้าน และผู้ประสบเหตุเป็นคนในพื้นที่ โดยอำเภอที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ อำเภอหางดง และอำเภอสันทราย ส่วนอำเภอที่ไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุเลยในช่วง 7 วันอันตราย ได้แก่ อำเภอแม่ออน และอำเภอกัลยาณิวัฒนา
ทั้งนี้ นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้กำชับให้แต่ละอำเภอถอดบทเรียนและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการและแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงเน้นย้ำให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการเมาแล้วขับ เพื่อร่วมกันป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
เขียนเมื่อ 05 มกราคม 2564 14:52:20 น. (view: 10336)