ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก พลโท อภิเชษฐ์   ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานการประชุมประจำวันของหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ( VTC ) ร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ 17  จังหวัดภาคเหนือ ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3  จว.พิษณุโลก เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 3 และกองทัพบก 

  แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3  เน้นย้ำการแก้ไขปัญหา pm 2.5 ในพื้นที่ที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะ 5 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำปางและจังหวัดพะเยา และจังหวัดพิษณุโลก  ซึ่งจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่ามีค่า PM 2.5 ระหว่าง 35 - 85  ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 44 - 105 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและค่าAQI ระหว่าง 46 – 187  ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง ถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ   ทั้งนี้ใน 17 จังหวัดภาคเหนือพบจุดความร้อนกว่า 149 จุดโดยเป็นพื้นที่อนุรักษ์ 74 จุด พื้นที่ป่าสงวน จำนวน 41 จุดและเขต สปก.จำนวน 19 จุด

เบื้องต้นแม่ทัพภาคที่ 3 สั่งการให้มณฑลทหารบก และ กอ.รมน.จังหวัด  ประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการในพื้นที่ ลดจุดความร้อน โดยฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละออง และให้มีการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวาง ตลอดจนให้หน่วยทหารแต่ละหน่วยจัดหาหน้ากากอนามัยให้กับกำลังพลให้พอเพียง ที่สำคัญควรงดกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง หากค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน