News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
เชียงใหม่ประกาศห้ามเผาทุกชนิดดีเดย์ 1 มี.ค. - 30 เม.ย.นี้ ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่ เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมให้ปิดป่าด้วยหวั่นวิกฤตไฟป่าหนัก
เชียงใหม่ประกาศห้ามเผาทุกชนิดดีเดย์ 1 มี.ค. - 30 เม.ย.นี้ ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่
เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมให้ปิดป่าด้วยหวั่นวิกฤตไฟป่าหนัก
เชียงใหม่ 26 ก.พ.- นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงนามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง ห้ามการเผาทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิงด้วยปรากฎว่า ในห้วงเดือนมีนาคม - เมษายน ของทุกปี จะเกิดจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาพื้นที่เผาใหม่ และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งถึงแม้ว่าจังหวัดเชียงใหม่ได้
กำหนดแผนการบริหาจัดการเชื้อเพลิงแล้ว แต่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ยังคงมีมากขึ้น จังหวัดเชียงใหม่ได้พิจรณาแล้วเห็นว่า การเผาทุกชนิดจะเป็นการก่อให้เกิดความสูญเสียต่อ
ทรัพยากรป่าไม้และคุณภาพอากศโดยรวม เป็นอันตรายส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จึงมีความจำเป็นต้องเข้มงวดเรื่องการห้ามเผาทุกชนิด ยกเว้นพื้นที่ตามแผนการบริหารจัดการ
เชื้อเพลิง ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดฉบับนี้ จะมีโทษความผิดตามมาตรา 74 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิ 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2563 เรื่องกำหนดมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิด
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ขอความร่วมมือผู้พบเห็นการเผาทุกชนิด ขอให้แจ้งเบาะแสหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดังนี้
1.ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าไม้ให้แจ้งศูนย์บัญชาการป้องกัน แก้ไขปัญหไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2564 หมายเลขโทรศัพท์ 053-3112808
2. นอกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ และเขตป่าไม้ตามข้อความข้างต้น ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือ
ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สายด่วน 191
3. ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ให้แจ้งศูนย์บัญชาการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2564 หมายเลขโทรศัพท์ 053-3112808 ในพื้นที่ริม
ทางหลวง และริมทางหลวงท้องถิ่น ให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเขตทางหลวงนั้นหรือแจ้งสายด่วนทางหลวง 1568 และสายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - 30 เมษายน 2564
อย่างไรก็ตามยังพิจารณาเพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้ปิดป่าห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตตามความจำเป็นในห้วงดังกล่าวที่ห้ามเผาด้วยเพื่อลดความเสี่ยงการเผาป่าเนื่องจากพบว่ามีการเผาเกิดขึ้นนอกพื้นที่จัดการเชื้อเพลิงเป็นเขตป่ากว่า90% คนหาของป่าหรือร้านจำหน่ายต้องลงทะเบียนและแจ้งที่มาอาหารที่ถูกต้อง หากไม่มีแหล่งที่มาถือว่าทำผิดกฎหมายอีกประการด้วย
เขียนเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2564 17:33:41 น. (view: 10336)