News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือสรุปการปฏิบัติงานที่สำคัญ รอบ 6 เดือน ในห้วง 1 ต.ค. 63 – 31 มี.ค. 64
ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือสรุปการปฏิบัติงานที่สำคัญ รอบ 6 เดือน ในห้วง 1 ต.ค. 63 – 31 มี.ค. 64 โดยมีการจับกุม ด้านประเทศเมียนมา จำนวน 13 ครั้ง ของกลาง ยาบ้า 11,896,000 เม็ด ไอซ์ 3,343 กก. และเฮโรอีน 164 กก. ด้าน สปป.ลาว มีการจับกุม 5 ครั้ง ของกลางยาบ้า 5,474,000 เม็ด และไอซ์ 2,318 กก. คาเฟอีน 7,250 กก. และ เฮโรอีน 152 กก./
สำหรับการจับกุมภายในประเทศ ที่ผ่านมามีการจับกุมรายสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 35 ครั้ง
ของกลางยาบ้า 38,993,400 เม็ด, ไอซ์ 466 กก., เฮโรอีน 104 กก. และเคตามีน 19.5 กก. / โดยเมื่อเปรียบเทียบการจับกุมในห้วงเวลาเดียวกันของปี 63 พบว่าลดลงร้อยละ 11/ ส่วนการจับกุมรายสำคัญนอกพื้นที่ จำนวน 63 ครั้ง ของกลางยาบ้า 144,933,360 เม็ด, ไอซ์ 6,378 กก., เฮโรอีน 2,258 กก. และเคตามีน 330 กก. เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 63 มีการจับกุมเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 170
ทั้งนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด19 ที่ทำให้ต้องมีความเข้มงวด ในการปิดกั้นการผ่านเข้า-ออกบริเวณแนวชายแดนภาคเหนือ ทำให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอ้อมผ่าน สปป.ลาว เพื่อลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่เขตไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากขึ้น / และจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในเมียนมา ทำให้เริ่มมีการสู้รบตามแนวชายแดนขึ้น /ส่งผลให้ชนกลุ่มน้อยกลุ่มต่างๆ ต้องการหางบประมาณมาเสริมสร้างกองทัพของตนเอง โดยการ
ค้ายาเสพติด ทำให้สถานการณ์ยาเสพติดในห้วงต่อไป จะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทุกหน่วยงานควรเฝ้าระวังห้วงเทศกาลสงกรานต์ ตามที่ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นในงานด้านการข่าวและเน้นการปฏิบัติของจุดตรวจและจุดสกัดตามเส้นทางหลักและรอง ให้เพ่งเล็งเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติและเครือข่ายในประเทศ โดยย้ำให้ขยายผลยึดทรัพย์ทั้งรายใหญ่ และรายย่อยระดับพื้นที่ในทุกจังหวัดให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากนโยบายและสั่งการของนายกรัฐมนตรี ให้ สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านยาเสพติด ดำเนินการขยายผลและยึดทรัพย์ของกลุ่มขบวนการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม นั้น ในปี 64 ศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือได้มีการจัดกำลังเข้าร่วมปฏิบัติในพื้นที่ 4 จังหวัด โดยมีการปฏิบัติ 870 เป้าหมาย รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ตลอดจนการตรวจสถานประกอบการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 64จัดกำลังร่วมเข้าตรวจสอบไปแล้ว 46 แห่ง
ที่สำคัญศูนย์ปฏิบัติการบริหารการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือได้น้อมนำแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี/ มาสู่แผนการปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วย โดยได้ขอรับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ผักจากศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธุ์เพ็ญศิริ มอบให้กับราษฏรในพื้นที่ จำนวน 9,010 ครัวเรือน/
นอกจากนี้หน่วยยังได้มีโครงการช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านผู้ยากไร้ ผู้พิการและนักเรียนที่มีความประพฤติดีแต่ฐานะยากจน ตามโครงการบ้านปันสุข ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ โดยได้ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 3 หลัง
กาญจนา เกตุทองมา รายงานจากกองทัพภาคที่ 3
เขียนเมื่อ 07 เมษายน 2564 11:03:08 น. (view: 10336)