News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
เชียงใหม่ เพิ่มมาตรการเข้มรองรับคำสั่ง ศบค. เพื่อหยุดการระบาด โควิด – 19 ขอความร่วมมือประชาชนอดทน เพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดยุติโดยเร็ว ทั้งนี้คำสั่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไป
วันนี้ (30 เม.ย. 64) ที่ ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ในวันนี้ (30 เม.ย. 64) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง มีจำนวน 59 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 3,575 ราย รักษาหายแล้ว 1,766 ราย และยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 1,807 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยในกลุ่มที่ยังคงรักษาอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 1,387 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 255 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 76 ราย และอาการหนัก (สีแดง) 13 ราย
ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการในกลุ่มเสี่ยงทั้งในโรงพยาบาลอำเภอ และจุดตรวจคัดกรองศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา และโรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 29 เมษายน ตรวจไปจำนวน 1,935 ราย พบผู้ติดเชื้อ 50 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.56 ความเสี่ยงส่วนใหญ่ยังพบว่าสัมผัสจากสถานบันเทิง แต่ลดลงเหลือร้อยละ 40.4 การสัมผัสในครอบครัวเพิ่มเป็นร้อยละ 21.9 สัมผัสในชุมชนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13.3 และสัมผัสในสถานที่ทำงานเป็นร้อยละ 10.6 โดยการตรวจคัดกรองเชิงรุก เมื่อวานนี้ได้ทำการสุ่มตรวจที่บ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง จำนวน 115 ราย ไม่พบการติดเชื้อ ส่วนการตรวจเชิงรุกในชุมชนเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 189 ราย พบผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ 1 คน
สำหรับคลัสเตอร์ของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงพบผู้ติดเชื้อจำนวน 2 คลัสเตอร์ จากการตรวจคัดกรองรอบ 2 ก่อนครบกำหนดกักตัว 14 วัน ประกอบด้วย คลัสเตอร์ศูนย์เด็กเล็กตำบลแม่คือ และงานศพที่อำเภออมก๋อย และมีคลัสเตอร์ที่อำเภอฮอด ซึ่งพบผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองรอบที่ 2 ก่อนครบกำหนดกักตัว โดยเดิมมีผู้ติดเชื้อ 7 คน ตรวจพบเพิ่มอีก 2 คน รวมเป็น 9 คน ซึ่งยังต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
ในวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องเอกซเรย์แบบเคลื่อนที่ พร้อมระบบ AI แก่โรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อใช้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ เป็น 1 ใน 19 แห่งที่ได้รับพระราชทาน เพื่อใช้ในการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพิ่มศักยภาพ และประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีระบบ AI ในการอ่านฟิล์มเอกซเรย์ปอดของผู้ติดเชื้อ และสามารถส่งฟิล์มแบบออนไลน์ให้ทีมแพทย์ได้อ่านผลในเวลาที่รวดเร็ว ทำให้การคัดแยกผู้ป่วยส่งเข้ารับการรักษาได้อย่างถูกต้อง ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19
ด้าน นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้การปรับระดับการกำหนดพื้นที่สถานการณ์ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ถูกจัดว่าเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่จึงได้มีการพิจารณาคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่ง ดังนี้
คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 47/2564 เรื่องมาตรการควบคุมการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมาก โดยให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 41/2564 ลงวันที่ 25 เมษายน 2564 และห้ามจัดกิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ทุกรูปแบบ มากกว่า 10 คนขึ้นไป เว้นแต่เป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการ ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ในส่วนของการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ให้ถือปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งของผู้ปกครองของแต่ละศาสนา และให้จำกัดเฉพาะผู้มีตำแหน่งทำหน้าที่ในการประกอบพิธีกรรมเท่านั้น สำหรับงานอวมงคล ให้จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เกิน 20 คน นอกจากนี้ให้ผู้จัดกิจกรรม เจ้าของสถานที่ หรือผู้เข้าร่วมกิจกรรม ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ให้จัดทำบัญชีรายชื่อผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามแบบที่กำหนด ส่งสาธารณสุขอำเภอในพื้นที่ที่จัดกิจกรรมทันทีที่เสร็จกิจกรรม
คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 48/2564 เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ให้ร้านหรือสถานที่จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคได้เท่านั้น งดการบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ที่ร้านหรือสถานที่และบริเวณโดยรอบและเปิดบริการได้จนถึงเวลา 21.00 น. ในส่วนของสนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกายในร่ม ให้ปิดให้บริการ ส่วนสนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อออกกำลังกายประเภทกลางแจ้งหรือตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง สามารถเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 21.00 น. โดยห้ามจัดให้มีการแข่งขันกีฬา
คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 49/2564 เรื่อง มาตรการควบคุมการเดินทางของประชาชน ให้ผู้ที่เดินทางมายังพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ทุกช่องทาง ต้องกรอกข้อมูลลงในแอปพลิเคชั่น “CM-CHANA” กรณีไม่สามารถกรอกข้อมูลลงในแอปพลิเคชั่น “CM-CHANA” ได้ให้ลงทะเบียนในแบบ ชม. 1 / ชม. 2 แล้วแต่กรณี และให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด ต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่โดยทันที และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับแจ้งจากระบบ “CM-CHANA” หากไม่ได้รับข้อความให้ติดต่อสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ 08-4805-2121 และ 08-4805-3131 ทั้งนี้บุคคลดังกล่าวจะต้องถูกคุมไว้สังเกต (Control for observation) เป็นระยะเวลา 14 วัน นอกจากนี้ให้บุคคลดังกล่าวบันทึกรายละเอียดประจำวันเพื่อประเมินตนเอง ตามแบบ ชม.3 กรณีที่มีความจำเป็นในการเดินทางออกไปจากที่พักอาศัยให้แสดงเหตุความจำเป็นพร้อมหลักฐานต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาอนุญาตให้เดินทางออกจากที่พักอาศัย
ในส่วนของผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นนอกเหนือจากจังหวัดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และพื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้ปฏิบัติดังนี้ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ได้รับแจ้งจากระบบ “CM-CHANA” หากไม่ได้รับข้อความให้ติดต่อสอบถามหมายเลขโทรศัพท์ 08-4805-2121 และ 08-4805-3131 และต้องสังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด (Self-monitoring) หากมีอาการผิดปกติให้แจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทันที
นอกจากนี้ให้ผู้ประกอบการโรงแรม หรือสถานที่พักอื่นใด ที่เปิดให้บริการแก่ผู้เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว ให้เก็บข้อมูลของผู้เดินทาง และตรวจสอบการลลงทะเบียนในแอปพลิเคชั่น “CM-CHANA” หรือแบบ ชม. 1 / ชม. 2 แล้วแต่กรณี พร้อมทั้งรวบรวมรายชื่อแจ้งให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมอบหมาย
คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 50/2564 เรื่อง มาตรการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ โดยต้องสวมให้ถูกวิธีตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและป้องกันมิให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะเพื่อจำกัดวงในการระบาดของโรค ทั้งนี้หากพบผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามที่กล่าวมา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ว่ากล่าวตักเตือนและปฏิบัติให้ถูกต้อง หากผู้นั้นไม่ปฏิบัติตาม ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ได้มีประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ (ฉบับที่ 5) เรื่อง การมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ชะลอหรืองดการเดินทางออกนอกจังหวัด หรือภูมิลำเนาของตนเองโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดการเดินทางที่เสี่ยงต่อการติดโรค ในส่วนของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ เจ้าของกิจการหรือผู้ประกอบการภาคเอกชน พิจารณาดำเนินมาตรการขั้นสูงสุด เพื่อมุ่งลดจำนวนการเดินทางของเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่อยู่ในความรับผิดชอบ ในการป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่และบุคลากรในความรับผิดชอบจะติดเชื้อเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งอาจสั่งการให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง หรือ WORK FROM HOME การลดจำนวนบุคคลที่ประจำอยู่ในสถานที่ตั้ง การสลับวันเวลาทำงาน หรือวิธีการอื่นใดตามความเหมาะสม โดยพิจารณาให้เพียงพอต่อภารกิจในการให้บริการประชาชน
ทั้งนี้ ตามคำสั่งคณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2564 21:53:51 น. (view: 10337)