News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
ด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่จัดชุดปฏิบัติการออกประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ประชาชนร่วมตระหนักเฝ้าระวังเข้มโควิด-19
เชียงใหม่ 2 พ.ค.- พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป ผกก.ด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(Covid-19) ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ รวมทั้งในเชียงใหม่ก็เป็น 6 จังหวัดที่มีการคุมเข้มสูงสุดที่พบการแพร่ระบาดสูงแม้ล่าสุดจะเริ่มดีขึ้นก็ตาม ด้วยความห่วงใยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ที่กำชับย้ำหน่วยงานในสังกัดให้ร่วมเฝ้าระวังดูแลประชาชนในห้วงเวลาดังกล่าว ทางด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่จึงได้สั่งการให้ งานสืบสวนปราบปราม นำรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ (BMW) ออกประชาสัมพันธ์เชิงรุกไปในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ที่มีทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวพำนักอยู่ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ ตระหนักในการร่วมป้องกันตนเองและครอบครัวให้พ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(Covid-19) ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ โดยออกปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 30 เมษายนเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตามด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่ จึงได้นำข้อห่วงใยมาแจ้งต่อพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้อยู่แต่ในพื้นที่ อยู่บ้านปลอดเชื้อและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข คือ เว้นระยะห่างทางสังคม สวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจหาเชื้อโควิดเมื่อมีอาการเสี่ยง แสกนแอพไทยชนะ/หมอชนะ ก่อน เข้า-ออกสถานที่ชุมชนทุกครั้ง และ ด่าน ตม.ทอ.เชียงใหม่ ขอเป็นกำลังใจต่อบุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และขอให้พวกเราผ่านพ้นวิกฤติการณ์ Covid-19 นี้ไปด้วยกันโดยเร็ว
ทั้งนี้ก่อนหน้าทาง ตม.ได้ร่วมปฏิบัติการเฝ้าระวังดูแลสถานการณ์ดังกล่าวมาต่อเนื่องนับแต่มีการระบาด ซึ่งตามนโยบาย ผบช.สตม. ที่ได้กำชับการปฏิบัติทั้ง 1.ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบและป้องกันคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน โดยให้บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และ 2.ให้สืบสวน หาข่าวการกระทำในลักษณะเป็นขบวนการนำพา เป็นนายหน้า และดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกราย ทั้งในระดับพื้นที่ และทางสื่อ Social Media เช่น Facebook , Line และสื่อต่างๆ รวมถึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และห้ามมิให้มีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจในปกครอง เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายของคนต่างด้าว หากพบการกระทำผิด จะพิจารณาดำเนินการทางอาญา และทางวินัย โดยเฉียบขาดทุกกรณี.
เขียนเมื่อ 02 พฤษภาคม 2564 11:45:46 น. (view: 10336)