วันนี้ (2 ก.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน 

ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าวันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 5 ราย ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากกรุงเทพฯ รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 4,180 ราย รักษาหายแล้ว 4,100 ราย ยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทุกประเภท จำนวน 54 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลรัฐ 43 ราย โรงพยาบาลเอกชน 11 ราย โดยในวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ยังอยู่ที่  26 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 32 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 17 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 4 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 1 ราย

การตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มผู้สัมผัสหรือผู้เสี่ยงสูง เมื่อวานนี้ (1 ก.ค. 64) ตรวจไป 938 ราย พบเชื้อ 4 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.43 ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 1 รายได้ทำการตรวจมาจากต่างจังหวัดและเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยปัจจัยเสี่ยงของผู้ติดเชื้อในช่วงระยะหลังนี้ พบเป็นผู้สัมผัสเชื้อมาจากต่างจังหวัดและเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ในแคมป์แรงงานต่างด้าว ตรวจไปแล้ว 6 อำเภอ จำนวน 108 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ขณะที่คลัสเตอร์ในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 23 คลัสเตอร์ ยังคงมีที่เฝ้าระวังอยู่ 2 คลัสเตอร์ และมีคลัสเตอร์ที่ปลอดภัยแล้ว 21 คลัสเตอร์  

โดยรายละเอียดของผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย มีดังนี้ CM 4259 เป็นเพศหญิง อายุ 29 ปี อาชีพแม่บ้าน ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยในวันที่ 23 มิถุนายน ได้ทานอาหารร่วมกับเพื่อน 2 รายที่บ้านจังหวัดปทุมธานี ซึ่งภายหลังทราบว่าติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 24 มิถุนายน ได้เดินทางกลับจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับสามีและลูกสาว โดยรถยนต์ส่วนตัว วันที่ 25 มิถุนายน ไปซื้อของที่แมคโครสาขาหางดง เพื่อซื้อของใช้ในการกักตัว วันที่ 26 มิถุนายน วันที่ 27 มิถุนายน เริ่มมีอาการไอและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  วันที่ 30 มิถุนายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเอกชน และวันที่ 1 กรกฎาคม พบผลติดเชื้อ และเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชน ทั้งนี้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด 1 ราย เป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน พบผลเป็นลบ

รายที่ CM4260-4262 ทั้ง 3 ราย ไม่มีอาการผิดปกติ โดยเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกรุงเทพฯ วันที่ 29 เดินทางจากกรุงเทพ เข้ามาจังหวัดเชียงใหม่โดยรถยนต์ส่วนตัว และกักตัวอยู่ในที่พักอำเภอฝาง วันที่ 30 มิถุนายน มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจคัดกรอง และวันที่ 1 กรกฎาคม เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบผลเป็นบวก และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลฝาง พบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 8 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 5 ราย พบผลเป็นบวก 3 ราย และผลเป็นลบ 2 ราย ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ พบ 3 ราย อยู่ระหว่างการตรวจ 

และรายที่ CM4263 เป็นเพศหญิง อายุ 35 ปี อาชีพค้าขาย (ตลาดท่าเกษตร) กรุงเทพฯ โดยในวันที่ 25 มิถุนายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ ปวดเมื่อยเนื้อตัว วันที่ 26-28 มิถุนายน ไปขายของที่ตลาดท่าเกษตร กรุงเทพฯ วันที่ 29 เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 2 พบผลเป็นบวก จึงออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังจังหวัดเชียงใหม่โดยรถยนต์ส่วนตัว และวันที่ 1 กรกฎาคม เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ทันที หลังเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับรายนี้มีผู้สัมผัส 3 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 3 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ และไม่พบผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ เนื่องจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทันที หลังเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ 

ทั้งนี้ ประชากรกลุ่มเป้าหมายฉีดวัคซีนของจังหวัดเชียงใหม่อยู่ที่ 1,200,000 คน ขณะนี้มีผู้ประสงค์ฉีดแล้ว 851,825 คน คิดเป็นร้อยละ 71 โดยมีผู้ที่ได้รับการฉีดไปแล้ว 141,593 คน จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่ยังไม่ได้จองคิวฉีด ให้จองคิวผ่านเว็บเบส “ก๋ำแปงเวียง” ที่เดียว ส่วนหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ สามารถส่งรายชื่อเป็นองค์กรจองเข้ามาได้ 

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนครบทั้งสองเข็มแล้ว และต้องการเดินทางไปต่างประเทศ หากต้องการสมุดรับรองการฉีดวัคซีน ต้องยื่นบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนที่ได้รับจากโรงพยาบาล เอกสารแสดงรับรองว่าจะเดินทางไปต่างประเทศ และค่าธรรมเนียม 50 บาท โดยใช้เวลา 5 วันในการดำเนินการ โดยสามารถขอรับได้ที่กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรค จังหวัดเชียงใหม่ (สคร.1) และโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 

นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง มาตรการการกวดขันห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 69/2564 เรื่อง ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านและบริเวณต่อเนื่อง ความว่า "ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ทีได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากกรมสรรพสามิต สามารถบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านและบริเวณต่อเนื่อง ถึงเวลา 21.00 น. และให้ปิดร้านเวลา 22.30 น.” โดยได้จับกุมผู้ฝ่าฝืน จำนวน 2 ร้าน  คือ ร้านบ่อตกกุ้งเฮฮา 168 ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 140/4 หมู่ 3 ตำบลสันกลาง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เขตรับผิดชอบ สภ.สันกำแพง ผู้ต้องหา 1 ราย ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เนื่องจากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท" โดยจะมีการสั่งฟ้องในวันพรุ่งนี้

ร้านที่ 2 คือ ร้านควัน จุ๊ง จุ๊ง ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 111/8 หมู่ที่ 5 ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เขตรับผิดชอบ สภ.แม่ปิง ผู้ต้องหา 1 ราย พนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับ 6,000 บาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการและผู้บริโภค ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด และหากผู้ใดพบเห็นมีการกระทำดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ เว็บเพจ ของ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่