จังหวัดเชียงใหม่ ชะลอการให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ภายหลังคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ขอกลับไปทบทวนแผนการฉีดวัคซีนสลับชนิดกัน ด้าน WHO ไม่ได้มีการห้ามให้ฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน แต่ต้องเป็นการตัดสินใจของบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น

วันนี้ (14 ก.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สลับชนิดกัน โดยให้วัคซีนเข็มที่ 1 เป็นวัคซีนซิโนแวค และเข็มที่ 2 เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งให้ฉีดห่างจากเข็มแรก 3-4 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อสายพันธุ์เดลตา และพื่อให้ภูมิคุ้มกันสูงขึ้นใกล้เคียงกับการได้รับวัคซีน AztraZeneca 2 เข็มในเวลาอันสั้น และจังหวัดเชียงใหม่ให้ดำเนินการฉีดทันทีเมื่อวานนี้ (13 ก.ค. 64) ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่าการใช้วัคซีนสลับชนิดดังกล่าวจะมีความปลอดภัยหรือไม่โดยอ้างถึง WHO ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติดำเนินการทบทวนมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติดังกล่าว ส่งผลให้จังหวัดเชียงใหม่งดการให้บริการวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันนี้ ส่วนกระแสข่าวที่อ้างถึง WHO ไม่ให้ฉีดวัคซีนสลับชนิดนั้น นั้น เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ไม่ได้มีการห้ามให้ฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน แต่จะต้องเป็นการตัดสินใจของบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น หากประชาชนเลือกชนิดของวัคซีนเองจะเป็นอันตรายได้  อย่างไรก็ตาม การเลือกชนิดของวัคซีนขึ้นกับข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามหลักฐานข้อมูลที่เพิ่มขึ้น และและปริมาณวัคซีนที่มีเพื่อให้การจัดการวัคซีนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด