จังหวัดเชียงใหม่ประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ประจำปี 2565 ให้สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

 วันนี้ (16 ส.ค. 64) ที่ห้องประชุม 1 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อพิจารณาแนวทางแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2565 ตลอดจนแนวทางการดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมในกรณีฉุกเฉิน

 ในการนี้ที่ประชุมได้รายงานผลการดำเนินงานการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ในปีงบประมาณที่ผ่านมา พบว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงกรกฏาคม 2564 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งไปแล้ว 231 ราย แบ่งเป็น เพศชาย 175 ราย เพศหญิง 56 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน โดยมีสาเหตุจากปัญหาด้านรายได้ สุขภาพจิต ด้านครอบครัว ขาดที่อยู่อาศัย และมีภูมิลำเนาต่างจังหวัดแต่เร่ร่อนเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ส่งผลให้แนวโน้มของคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ โดยส่งกลับสู่ครอบครัว 75 ราย เข้ารับการรักษา 26 ราย ส่งเข้าศูนย์คุ้มครอง 4 ราย ส่งเข้ารับการฝึกอาชีพ 1 ราย ให้ความรู้และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวตลอดจนส่งสมัครเข้าทำงาน 120 ราย และส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีก 5 ราย ซึ่งจะมีการติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการดำเนินชีวิตอย่างต่อเนื่อง 

 นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือแผนแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2565 โดยเน้นย้ำให้มีการยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพของคนไร้ที่พึ่งให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พร้อมสร้างระบบคุ้มครองทางสังคมให้แก่คนไร้ที่พึ่ง โดยให้สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ และสร้างภาคีเครือข่ายในการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานเชิงรุกจัดทำศูนย์คุ้มครองในพื้นที่ต่างๆ เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งในชุมชน ตลอดจนพัฒนาองค์กรที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น