คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นถึง 130 ราย จากการเข้าตรวจเชิงรุก พบมีการแพร่กระจายออกไปอีก 1 คลัสเตอร์ย่อย รวมเป็น 8 คลัสเตอร์ย่อยตามอำเภอต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับตลาดเมืองใหม่ ย้ำกลุ่มเสี่ยงต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อและกักตัวอย่างเคร่งครัดแม้จะไม่มีอาการ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19

 วันนี้ (15 ต.ค. 64) ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค COVID-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ของจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 279 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่มีประวัติเดินทางจากต่างจังหวัดเพียง 2 รายเท่านั้น ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี ทั้ง 2 ราย ส่วนอีก 277 รายเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยแบ่งเป็น ผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 22 ราย ,อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 32 ราย ,ผู้ติดเชื้อในครอบครัว 6 ครอบครัว ประกอบด้วย ครอบครัวในอำเภอดอยสะเก็ด อำเภอเชียงดาว อำเภอสันกำแพง และอำเภอสันป่าตอง อีก 10 ราย และมาจากคลัสเตอร์ต่างๆ ซึ่งแยกเป็นคลัสเตอร์เดิม 19 คลัสเตอร์ 44 ราย ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างการกักตัว จึงไม่มีผู้สัมผัสเพิ่มเติม อาทิ คลัสเตอร์บ้านขุนช่างเคี่ยน หมู่ 4 ตำบลช้างเผือก เพิ่ม 8 ราย ,คลัสเตอร์ชุมชนหลังวัดป่าเป้า ซอยอุ่นอารีย์ ตำบลศรีภูมิ เพิ่ม 7 ราย ,คลัสเตอร์บ้านป่ากล้วย หมู่ 14 ตำบลแม่สอย อำเภอจอมทอง เพิ่ม 5 ราย และยังมีคลัสเตอร์อื่นๆ อีกหลายคลัสเตอร์ พบแห่งละ 1-3 ราย

 นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ที่ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่องอีก 5 คลัสเตอร์ จำนวน 169 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ เพิ่ม 130 ราย ,คลัสเตอร์บ้านดอยคำ หมู่ 8 ตำบลหางดง อำเภอฮอด เพิ่ม 20 ราย ,คลัสเตอร์โรงงานน้ำดื่มพีเอ็น โรงงานลูกชิ้นพรสวรรค์ และหอพักเจ๊พร หมู่ 9 ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง เพิ่ม 15 ราย ,ฐานปฏิบัติการบ้านร้องธาน ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ เพิ่ม 2 ราย เป็นทหารที่จับกุมแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองที่มีผลบวกเมื่อ 4 วันก่อน และร้านโฟรเซ่ นิมมาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพิ่ม 2 ราย เป็นลูกค้าที่ไปดื่มกินกับเพื่อนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ 1 ราย และอีก 1 รายเป็นลูกค้าที่ไปใช้บริการในวันดังกล่าว ซึ่งมีคนใช้บริการหนาแน่นมาก

 สำหรับข้อมูลผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนจากคลัสเตอร์ต่างๆ มีดังนี้ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ พบผู้ติดเชื้อ 130 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 761 ราย ยังคงพบในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาด พนักงานเข็นรถรับส่งผักหรือสินค้าทั่วตลาด จากการเข้าตรวจเชิงรุกของรถชีวนิรภัยพระราชทาน เป็นการตรวจทั้งครั้งแรกและครั้งที่ 2 ของผู้กักตัว ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มเสี่ยงหลายคนไม่ได้เข้ารับการตรวจและกักตัวอย่างเคร่งครัด จนทำให้เชื้อโรคกระจายไปกับคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงซึ่งในระยะแรกอาจจะไม่มีอาการ ทำให้คิดว่าตนเองไม่ติดเชื้อจนกลายเป็นสาเหตุของการแพร่กระจายได้ โดยในขณะนี้พบมีการแพร่กระจายออกไปแล้ว 8 คลัสเตอร์ย่อยที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดเมืองใหม่ในแต่ละอำเภอ ดังนี้ คลัสเตอร์บ้านขุนช่างเคี่ยน ,คลัสเตอร์หมู่ 4 ตำบลกองแขก อำเภอแม่แจ่ม ,คลัสเตอร์ สภ.สันทราย ,คลัสเตอร์ หมู่ 1 ตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง ,คลัสเตอร์ชุมชนหลังวัดป่าเป้า ซอยอุ่นอารีย์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ,คลัสเตอร์หมู่ 12 ตำบลเวียง อำเภอฝาง ,คลัสเตอร์ตลาดเทศบาลตำบลหางดง อำเภอหางดง และคลัสเตอร์หมู่ 8 ตำบลหางดง อำเภอฮอด 

 คลัสเตอร์โรงงานน้ำดื่มพีเอ็นและโรงงานลูกชิ้นพรสวรรค์ หมู่ 9 บ้านแม่โฮม ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย จากการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวม 76 ราย พบมีการแพร่กระจายไปหอพักเจ๊พร ซึ่งอยู่ใกล้กัน และพนักงานซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวพักอาศัยอยู่ร่วมกัน อยู่ระหว่างติดตามกลุ่มเสี่ยงสูงผู้สัมผัสร่วมบ้านเพิ่มเติม 

 คลัสเตอร์หมู่ 8 ตำบลหางดง อำเภอฮอด พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 25 ราย จากการสอบสวนมีความเชื่อมโยงจากการเดินทางไปค้าขายที่ตลาดเมืองใหม่ ตลาดไท และมีกิจกรรมรวมกลุ่มในหมู่บ้านที่ทำให้เกิดการแพร่กระจายโรค 

 คลัสเตอร์หมู่ 4 บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย จากการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 33 ราย เป็นอีกหนึ่งคลัสเตอร์ที่ต่อเนื่องมาจากการไปค้าขายที่ตลาดเมืองใหม่ และความใกล้ชิดกันในกลุ่มพี่น้องชนเผ่า ทำให้เกิดการแพร่กระจายโรคอย่างรวดเร็ว อยู่ระหว่างการค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติม

 ทั้งนี้จึงขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคส่วนบุคคล งดการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง งดการรวมกลุ่มปาร์ตี้สังสรรค์ งดการทำกิจกรรมที่สุ่มเสี่ยง และกักตัวอย่างเคร่งครัด ส่วนผู้ที่ซื้อ ATK มาตรวจ ถ้าผลเป็นบวกให้รีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อสม. ใกล้บ้านภายใน 3 ชั่วโมง มิฉะนั้นจะถือว่ากระทำผิดตาม พรบ.โรคติดต่อ 2558 ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในชุมชน และอาจทำให้ไม่สามารถเข้าถึงการรักษาจนเกิดอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

**********

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ..ข่าว

15 ตุลาคม 2564