วันนี้ (19 ต.ค. 64) ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายมนต์ชัย พงษ์เกียรติก้อง รองปลัดเทศบาลนครเชียงใหม่ เปิดเผยถึงแนวทางการจัดการพื้นที่และการบรรเทาความเดือดร้อนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ว่า ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้มีการลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้ชุดตรวจ ATK และนำรถตรวจหาเชื้อพระราชทานเข้ามาตรวจคัดกรอง เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนให้เร็วที่สุด รวมทั้งได้มีการล้างทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อในตลาดเมืองใหม่อย่างต่อเนื่อง

 นอกจากนี้ในวันที่ 7-11 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้ทำการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกอบการและแรงงานในตลาดไปแล้วกว่า 3,000 โดส และในวันที่ 15-18 ตุลาคม ได้ฉีดให้แก่ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงกับตลาดเมืองใหม่อีก 3,000 โดส เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไม่ให้ขยายวงกว้างออกไป ซึ่งมีการรณรงค์ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้มีการขออนุมัติวัคซีนเพิ่มอีก 2,000 โดส จากคณะกรรมการบริหารวัคซีนฯ จังหวัดเชียงใหม่เพื่อนำฉีดให้กับผู้ประกอบการและแรงงานในตลาดที่อาจจะตกหล่นในการฉีดวัคซีนครั้งแรก ด้านมาตรการช่วยเหลือ อื่น ๆ  ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้แจกถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ที่กักตัวไปแล้วกว่า 500 ชุด และผู้ที่อาศัยอยู่นอกพื้นที่เขตเทศบาลได้มีการประสานกับทางอำเภอต่างๆ ให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม ส่วนกรณีมีผู้ค้าบางราย รวมตัวกันนำสินค้าออกไปเร่ขายตามจุดต่างๆ นอกพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ติดตาม ทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและหาแนวทางช่วยเหลือแล้ว เพื่อป้องกันการนำเชื้อออกไปแพร่กระจายสู่ชุมชน

 ด้านมาตรการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดตลาดเมืองใหม่อีกครั้งในวันที่ 23 ตุลาคม นี้ ในเบื้องต้นกำหนดแนวทางให้ผู้ประกอบการและแรงงานในตลาด จะต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ,มีผลตรวจ ATK เป็นลบ และจะต้องขึ้นทะเบียนกับทางเทศบาลฯ ในการเปิดร้านค้า ซึ่งจะได้เปิดให้ขึ้นทะเบียนและส่งเอกสารในระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม นี้ โดยจะมีป้ายที่รับรองร้านค้าปลอดภัยจากทางเทศบาลฯ ให้กับแต่ละร้าน ส่วนผู้ที่เป็นแรงงานรับจ้างเข็นผักก็จะมีป้ายห้อยเพื่อรับรองผลเช่นเดียวกัน ขณะที่ผู้ใช้บริการ หรือซื้อสินค้าที่ตลาดเมืองใหม่อาจจะต้องผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้ว 1 เข็ม หรือตรวจ ATK มาแล้ว ซึ่งทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้จะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาอนุญาตอีกครั้ง โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก