จังหวัดเชียงใหม่ ประกาศพื้นที่เสี่ยงเพิ่มอีก 2 แห่ง ที่ บริษัทไลค์บรรจุภัณฑ์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด และตลาดแม่โจ้บาร์ซา ให้ผู้ที่มีประวัติไปใช้บริการ ระหว่างวันที่ 16-23 พฤศจิกายน สังเกตอาการตนเอง 14 วัน ส่วนสถานการณ์การติดเชื้อในครอบครัวของจังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มดีขึ้น

วันนี้ (23 พ.ย. 64) ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวัน ว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ 245 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพียง 3 ราย โดยมาจากกรุงเทพฯ 2 ราย และเชียงราย 1 ราย ส่วนที่เหลืออีก 242 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ต่างๆ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ คลัสเตอร์ค่ายกาวิละ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8 ราย ยอดรวม 11 ราย เป็นการติดเชื้อในกลุ่มทหารใหม่ จากทั้งหมดประมาณ 300 คน ขณะนี้ได้ดำเนินการกักตัวตามระบบ Bubble&Seal แล้ว  ,คลัสเตอร์บ้านห้วยจะค่าน ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว พบผู้ติดเชื้อ 8 รายเป็นการติดเชื้อรอบใหม่ที่เชื่อมโยงจากการระบาดในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองแขม และคลัสเตอร์ใหม่อีกแห่ง ที่ ชุมชน หมู่ 4 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม 4 ราย เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ ส่วนคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดต่อเนื่อง ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดแม่คือ 5 ราย เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่เช่นเดียวกัน นอกนั้นเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่คลัสเตอร์ละ 1-3 ราย 

ด้านคลัสเตอร์เดิมอยู่ระหว่างการควบคุมโรค ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 34 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างธนาคาร ธกส. สาขา อ.สารภี พบ 15 ราย จากการตรวจครั้งที่ 3 ก่อนครบการกักตัว ,คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ 7 ราย ,คลัสเตอร์บริษัทนิ่มซี่เส็ง สาขาฟ้าฮ่าม เมืองเชียงใหม่ 3 ราย ,คลัสเตอร์ VL Academy ทีมฟุตบอลโรงเรียนวชิราลัย 3 ราย และคลัสเตอร์ตลาดทิพย์เนตร 2 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น 

ส่วนผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า พบเพิ่ม 77 ราย ขณะที่การระบาดในครอบครัวพบผู้ติดเชื้อลดลงอยู่ที่ 15 ราย จาก 7 ครอบครัว ประกอบด้วย หมู่ 8 ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี 4 ราย และในอำเภอเมืองเชียงใหม่ และอำเภอจอมทอง ครอบครัวละ 1-3 ราย ซึ่งถือว่าสถานการณ์การติดเชื้อในกลุ่มครอบครัวดีขึ้นมาก และยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 68 ราย 

ทั้งนี้จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศพื้นที่เสี่ยงเพิ่มอีก 2 แห่ง คือ บริษัทไลค์บรรจุภัณฑ์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด หมู่ 1 ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง และตลาดแม่โจ้บาร์ซา ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยให้ผู้ที่เดินทางไปใช้บริการหรือสัมผัสกับพนักงาน ระหว่างวันที่ 16-23 พฤศจิกายน ให้สังเกตอาการตนเอง 14 วัน หากพบมีอาการผิดปกติ ให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง หรือที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ

สำหรับผู้เสียชีวิต 3 รายวันนี้ รายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 81 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ และเป็นผู้ป่วยติดเตียง การติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน โดยวันที่ 18 พฤศจิกายน อสม. ได้ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกที่บ้าน และตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด จึงส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลต่อมาอาการไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ไม่ตอบสนองการรักษา ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง

รายที่สองเป็นหญิงไทย อายุ 87 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน วันที่ 7 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไอ จึงเข้ารับการตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อเข้ารับการรักษาที่ศูนย์แยกโรคชุมชน วันที่ 16 พฤศจิกายน มีอาการเหนื่อยมากขึ้นและซึมลง จึงส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ต่อมาวันที่ 21 พฤศจิกายน ปอดอักเสบรุนแรง ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง

และรายสุดท้ายเป็นหญิงไทย อายุ 68 ปี มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง และหอบหืด ติดเชื้อจากการสัมผัสในชุมชนเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์กาดก้อม เคยได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 1 เข็ม เมื่อ 26 ตุลาคม โดยวันที่ 3 พฤศจิกายนเริ่มมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย จึงเข้ารับการตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิดและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ต่อมาอาการไม่ดีขึ้นจึงส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ วันที่ 21 พฤศจิกายน ปอดอักเสบรุนแรง ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง