จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 200 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดในครอบครัวมีแนวโน้มดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อเพียง 4 คน จาก 2 ครอบครัว 

วันนี้ (26 พ.ย. 64) ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ประจำวัน ว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเพียง 190 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด 7 ราย ที่เหลืออีก 183 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่มีการระบาดต่อเนื่อง ทั้งหมด 20 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ใหม่ ที่ บ้านห้วยเต่ารู หมู่ 8 ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม 6 ราย ,คลัสเตอร์เซ็นทรัลเฟสติวัล 3 ราย เป็นการติดเชื้อในกลุ่มพนักงานกะ A ซึ่งทางห้างได้มีแผนรองรับให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกักตัว และนำพนักงานกะ B มาปฏิบัติงานแทน ถือว่ามีความปลอดภัยสูง เป็นตัวอย่างที่ดี ,คลัสเตอร์บ้านห้วยจะค่าน หมู่ 9 ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว 3 ราย ,คลัสเตอร์ทีมฟุตบอล VL Academy โรงเรียนวชิราลัย อำเภอสารภี 2 ราย และคลัสเตอร์ตลาดแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด 1 ราย นอกนั้นเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่คลัสเตอร์ละ 1 ราย 

ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 25 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ 8 ราย ยอดรวม 2,064 ราย ,คลัสเตอร์ตลาดประตูก้อม 2 ราย ,คลัสเตอร์งานศพ หมู่ 2 ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอดอยสะเก็ด 2 ราย ,คลัสเตอร์บริษัทนิ่มซี่เส็ง สาขาฟ้าฮ่าม 1 ราย ,คลัสเตอร์ตลาดรวมโชค ตำบลฟ้าฮ่าม 1 ราย และคลัสเตอร์อื่นๆ คลัสเตอร์ละ 1 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเพิ่ม

ด้านคลัสเตอร์กลุ่มครอบครัว พบผู้ติดเชื้อเพียง 4 ราย จาก 2 ครอบครัว คือ ครอบครัวซอยร่มเย็น ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ และหมู่ 1 ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ครอบครัวละ 2 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า พบเพิ่ม 94 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 44 ราย 

สำหรับผู้เสียชีวิต 3 ราย ในวันนี้เป็นผู้สูงอายุ 2 ราย มีโรคประจำตัวทั้ง 2 ราย และทั้ง 3 รายไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน โดยรายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 76 ปี ไม่มีโรคประจำตัว วันที่ 16 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น อีก 7 วัน จึงเข้าไปตรวจ ATK ณ จุดตรวจเทศบาลนครเชียงใหม่ วันที่ 24 พฤศจิกายน มีอาการเหนื่อยหอบ และไอมากขึ้น จึงเข้ารับการตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด เข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลหางดง หลังจากนั้นระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลง

รายที่สองเป็นชายไทย อายุ 50 ปี มีโรคประจำตัว เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไตวาย ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว วันที่ 19 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ เหนื่อยง่าย วันที่ 21 พฤศจิกายน มีอาการเหนื่อยมาก ซึมลง หัวใจหยุดเต้นส่งไปรักษาที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนครพิงค์ ได้รับการช่วยฟื้นคืนชีพ และตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด วันที่ 24 พฤศจิกายน ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิต

รายสุดท้ายเป็นหญิงไทย อายุ 89 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และไตวาย ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว วันที่ 13 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ออกซิเจนในเลือดต่ำ เข้ารักษาที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด วันที่ 21 พฤศจิกายน เหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ มีภาวะไตวายแทรกซ้อนและน้ำท่วมปอด วันที่ 24 พฤศจิกายน ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิต