News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
เชียงใหม่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ต่ำกว่า 100 ติดต่อกันเป็นวันที่ 10
สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ต่ำกว่า 100 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 10 ขณะที่การติดเชื้อในครอบครัวไม่พบกลุ่มก้อนการระบาดใหม่
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (18 ธ.ค. 64) พบผู้ติดเชื้อลดลงอยู่ที่ 57 ราย ซึ่งต่ำกว่า 100 ราย ติดต่อกันเป็นวันที่ 10 โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 6 ราย และเป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด 51 ราย ซึ่งมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่ยังคงมีการระบาดต่อเนื่อง 6 ราย ได้แก่ โรงชำแหละไก่สด นครพิงค์ ตำบลแม่คือ อำเภอดอยสะเก็ด 2 ราย, คลัสเตอร์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2 ราย และคลัสเตอร์ใหม่ พนักงานขับรถขนส่งมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2 ราย ขณะนี้ทีมควบคุมโรคในทุกพื้นที่ได้ลงทำการควบคุมโรค ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ ฆ่าเชื้อในพื้นที่ และสอบสวนโรคแล้ว
นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อ คลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค 4 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ห้องเย็นปรมีเชียงใหม่ ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2 ราย, คลัสเตอร์บริษัทโปรดินดัสเทรียล จำกัด อำเภอสารภี 1 ราย และคลัสเตอร์บริษัททวีพรรณเฟอร์นิเจอร์ อำเภอแม่ริม 1 ราย ขณะที่การติดเชื้อในครอบครัว ไม่พบกลุ่มก้อนการระบาดใหม่
ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ขอประกาศพื้นที่เสี่ยงเพิ่ม 3 พื้นที่ ได้แก่ รถขนส่งมวลชน สาย 4 (เบอร์ 29) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ห้องเย็นปรมี เชียงใหม่ หมู่ 5 ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเขียงใหม่ และห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่จรรยา ถนนเมืองสมุทร ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยขอให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปใช้บริการ หรือสัมผัสกับพนักงาน ระหว่างวันที่ 10-18 ธันวาคม 2564 สังเกตอาการ 14 วัน นับจากวันที่สัมผัสเสี่ยงวันสุดท้าย หากพบอาการผิดปกติให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง หรืออาคารเอนกประสงค์สวนสุขภาพบ้านเด่น ตำบลวัดเกต ระหว่างเวลา 08.30-15.00 น.
สำหรับผู้เสียชีวิต 4 ราย วันนี้ ทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่เป็นผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อในครอบครัว และที่สำคัญทั้งหมดไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน โดยรายแรก เป็นหญิงไทย อายุ 65 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ติดเชื้อจากการสัมผัสคนในชุมชน และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน โดยวันที่ 15 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย 2 วันต่อมา ตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ และแพทย์ได้ให้การรักษาประคับประคองเรื่อยมา
รายที่สอง เป็นหญิงไทย อายุ 87 ปี มีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ติดเชื้อจากการทำกิจกรรมทางศาสนาในชุมชน และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยวันที่ 18 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย 4 วันต่อมา เข้ารับการตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 รับรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จากนั้นมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ ติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อน และไม่ตอบสนองต่อยาต้านจุลชีพ
รายที่สาม หญิงไทย อายุ 72 ปี มีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และถุงลมโป่งพอง ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยวันที่ 6 ธันวาคม เริ่มมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อย อีก 1 วันต่อมา เข้ารับการตรวจ RT-PCR ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ และระบบหายใจล้มเหลว
และรายที่สี่ เป็นหญิงไทย อายุ 50 ปี มีโรคประจำตัว มะเร็งปากมดลูก หอบหืด และโรคอ้วน ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว และได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซิโนฟาร์ม เพียง 1 เข็ม โดยวันที่ 18 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ หายใจเร็ว 3 วันต่อมาจึงเข้ารับการตรวจ RT-PCR ผลยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ออกซิเจนในเลือดต่ำ และระบบหายใจล้มเหลว
เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2564 23:45:56 น. (view: 10337)