ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ นายอนุชา ดำรงมณี กรรมการบริหารปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เผยความคืบหน้าการควบรวม กิจการไนท์ซาฟารีกับองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามมติคณะรัฐมนตรี ว่า ได้มีการร่างกฏหมายฉบับใหม่ เพื่อควบรวมกิจการไนท์ซาฟารีกับองค์การสวนสัตว์ฯ แล้วเนื่องจากกฏหมายเดิม ไม่สามารถควบรวมกิจการได้ เพราะไนท์ซาฟารีเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การมหาชน ส่วนองค์การสวนสัตว์เป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นกฎหมายคนละฉบับ ซึ่งกฎหมายฉบับใหม่จะอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การสวนสัตว์ฯ เป็นเรื่องกฏเกณฑ์ ที่ทางไนท์ซาฟารีต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง และต้องมีระเบียบกฏเกณฑ์การบริหารงานที่ชัดเจน ก่อนนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามลำดับต่อไป

  ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ พนักงาน ลูกจ้าง ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี กว่า 300 คน และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอาหารสัตว์ของ 4 ตำบล คือ ต.สุเทพ ต.แม่เหียะ อ.เมือง ต.หนองควาย และ ต.บ้านปง อ.หางดง ที่มีสมาชิกกว่า 500 ราย ที่ทำพันธสัญญาในการส่งอาหารสัตว์ให้กับไนท์ซาฟารี ก็ยังคงเป็นไปตามเดิม เพราะนโยบายรัฐไม่ได้เปลี่ยนแปลง แม้มีมติครม.และพระราชกฤษฏีกาให้ยกเลิกองค์การฯดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา เพื่อปรับเปลี่ยนองค์กรบริหารให้ถูกต้องตามระเบียบขั้นตอนของกฏหมายเท่านั้น จึงขอให้พนักงาน ลูกจ้าง และกลุ่มวิสาหกิจไม่ต้องกังวล 

  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 2,000 คน ซึ่งไนท์ซาฟารีต้องยกระดับมาตรฐานให้เป็น World Class หรือระดับโลกให้ได้ พร้อมสร้างงาน และรายได้ให้แก่ชุมชนรอบข้างให้มากขึ้น ช่วงครึ่งปีแรก นี้ก็มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 10 % ภาพรวมปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวกว่า 600,000 คน ทำรายได้กว่า 230 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีแรกที่ทำรายได้เกิน 200 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มรายได้เป็น 250 ล้านบาท