สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (21 ก.พ. 65) พบผู้ติดเชื้อยืนยันจากการตรวจ RT-PCR จำนวน 315 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากต่างจังหวัด 7 ราย ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด โดยในวันนี้พบการแพร่ระบาดของเชื้อในคลัสเตอร์กลุ่มองค์กรและสถานที่ทำงานเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการติดเชื้อในคลัสเตอร์กลุ่มร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ยังคงพบอยู่จำนวนหนึ่ง ขณะที่คลัสเตอร์กลุ่มโรงเรียน ไม่พบการติดเชื้อเพิ่ม

ด้านการแพร่ระบาดในครอบครัว พบเพิ่ม 18 ราย จาก 13 ครอบครัว กระจายอยู่หลายอำเภอ และผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า พบมากถึง 121 ราย จึงขอเน้นย้ำประชาชน “การ์ดอย่าตก” รวมถึงกลุ่มเสี่ยงให้ปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันโรคและกักตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไปยังครอบครัวและคนใกล้ชิด ด้วยปัจจัยเสี่ยงหลักของการติดเชื้อในช่วงนี้ คือการสัมผัสในครอบครัว และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนการสัมผัสในที่ทำงานและการสัมผัสในชุมชน ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับกลาง ๆ ส่วนการสัมผัสในร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และการสัมผัสจากสถานที่ระบาดในต่างจังหวัด ลดลง แต่ยังคงพบอย่างต่อเนื่องทุกวัน 

สำหรับข้อมูลด้านการรักษาพยาบาล ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อที่เข้าสู่ระบบการรักษาเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย หรือกลุ่มสีเขียว และผู้ติดเชื้อที่มีอาการปานกลาง หรือกลุ่มสีเหลือง ยังคงทรงตัวอยู่ ส่วนผู้ติดเชื้อที่ใส่ท่อช่วยหายใจ หรือกลุ่มสีแดง เพิ่มเป็น 37 ราย ทำให้เหลือเตียงว่างรองรับอยู่ ร้อยละ 69 โดยผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว รักษาในระบบการแยกกักที่บ้าน (Home Isolation) และการแยกกักในชุมชน (Communication Isolation) เพิ่มมากขึ้น โดยยอดเมื่อวานนี้ (20 ก.พ. 65) มีผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาในระบบ Home Isolation 12,866 ราย รักษาในระบบ Communication Isolation 2,147 ราย คิดเป็นร้อยละ 54.12 ของจำนวนเตียง CI ทั้งหมดในจังหวัดเชียงใหม่