สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ แนะวิธีสังเกตอาการตนเองของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ขณะที่จังหวัดเชียงใหม่สั่งการให้แต่ละอำเภอในพื้นที่เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชนเพื่อลดความรุนแรงของโรค

นายแพทย์สุรเชษฐ์ อรุโณทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ แนะนำถึงการเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงและการเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำรวมถึงการปฏิบัติตัวในห้วงของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งผู้สัมผัสใกล้ชิด คือผู้ที่อยู่ใกล้กับผู้ที่มีผลจากการตรวจ ATK หรือ RT-PCR เป็นบวก ระยะ 2 เมตร ในเวลานานเกิน 5 นาที และจะเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงก็ต่อเมื่อผู้สัมผัสคนนั้นไม่ได้สวมแมส แต่หากสวมหน้ากากอนามัยก็จะกลายเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงต่ำ หรือการอยู่ในสถานที่ปิดกับผู้ป่วย โดยไม่มีอากาศถ่ายเท นานกว่า 30 นาที โดยไม่มีการป้องกัน เช่น อาคาร หรือยานพาหนะ หากพิจารณาแล้วว่าตนเองอยู่ในกลุ่มของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะต้องกักตัวเองที่บ้านเป็นระยะเวลา 7 วัน จากนั้นสามารถออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่จะต้องสังเกตอาการตัวเองต่ออีก 3 วัน รวมทั้งหมด 10 วัน ในส่วนของ 10 วันที่กักตัวนี้จะต้องวัดไข้และสังเกตอาการตนเอง ถ้าอุณหภูมิเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ หอบ เหนื่อย ถือว่ามีอาการสงสัย สามารถตรวจ ATK ได้ทันที หากกรณีที่กักตัวที่บ้านแล้วไม่มีอาการ ควรตรวจ ATK ครั้งแรกหลังจากสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 5 วันจากการสัมผัสครั้งสุดท้าย และตรวจ ATK ครั้งที่ 2 หลังจากสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ 10 วัน หากตรวจ 2 ครั้งแล้วพบว่าผลการตรวจเป็นลบ ถือว่าไม่ติดเชื้อจากการสัมผัสในเหตุการณ์นี้ สำหรับผู้ใกล้ชิดเสี่ยงต่ำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ให้สังเกตอาการเป็นระยะเวลา 10 วัน หากมีอาการไข้หรืออาการทางเดินหายใจให้สามารถตรวจ ATK ได้ทันที

ตามที่นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ 

เร่งฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนโดยเร็ว เพื่อลดความรุนแรงของโรคที่จะตามมา ในส่วนของอำเภอต่างๆ โดยในพื้นที่ของอำเภอสันกำแพง นำโดยนายภิญโญ พัวศรีพันธุ์ นายอำเภอสันกำแพง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอสันกำแพง ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสันกำแพง จัดทำแผนลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ตามนโยบายเคาะประตูบ้าน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ต้านโรคโควิด-19 โดยจะได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

ขณะที่อำเภอสันทราย โดยนายศิวะ ธมิกานนท์ นายอำเภอสันทราย ได้มอบหมายให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล ในพื้นที่อำเภอสันทราย จัดชุดปฏิบัติการโควิดหมู่บ้าน นำโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่เพื่อดำเนินการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตาม 4 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการป้องกัน โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอสันทราย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมอำนวยความสะดวกการเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับกลุ่มเด็กนักเรียนในสถานศึกษาที่โรงพยาบาลสันทราย ,มาตรการปราบปราม โดยเน้นจุดตรวจตราเพื่อกำชับมาตรการป้องกันโรคกับสถานประกอบการ ร้านค้า และตลาดสดทุกสัปดาห์ ,มาตรการช่วยเหลือ ได้มีการติดตามและลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ที่อยู่ในระหว่างการกักกันโรค นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำโครงการ “เพื่อนช่วยเพื่อน” โครงการ “วัดช่วยบ้าน ประชาชนสุขใข” และโครงการ “เราไม่ทิ้งกัน” โดยชุมชนเพื่อชุมชน ร่วมช่วยเหลือกันสร้างความสามัคคีในชุมชน และมาตรการประชาสัมพันธ์ ได้มีการตรวจให้คำแนะนำการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเบื้องต้นให้ประชนชนและสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโรคโควิด-19 ได้มากที่สุด

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกเดือน มกราคม 2565 จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 4 มีนาคม 2565 มีผู้ติดเชื้อยืนยันเฉลี่ย 14 วัน จำนวน 300 ราย และมีผู้ติดเชื้อเข้าข่ายเฉลี่ย 14 วัน จำนวน 2,510 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระบบการรักษา จำนวน 16,468 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียว คือเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย