นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผย การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้กว่าร้อยละ 70 และป้องกันการเสียชีวิตได้กว่าร้อยละ 90 ย้ำหากเข้าสู่โรคประจำถิ่น ประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย 

วันนี้ (10 พ.ค. 65) นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่สัญจร  ที่วัดขะจาว ตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ ว่า จากการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่และประเทศไทย พบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นและอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งการระบาดในขณะนี้พบว่าเป็นการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนทั้งหมด และอัตราการเสียชีวิตในระลอกนี้ต่ำกว่าทุกระลอกที่ผ่านมา ด้วยมีศักยภาพด้านการรักษาพยาบาลและมีความพร้อมที่ดีขึ้น

โดยในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ ศบค. ได้เตรียมประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น เนื่องจากโรคโควิด-19 มีอัตราการเสียชีวิตระนาบเดียวกันกับโรคไข้หวัดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวร้ายแรงในจังหวัดเชียงใหม่ หรือกลุ่ม 607  ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างครอบคลุม เพื่อความปลอดภัย ลดการป่วยรุนแรง เสียชีวิต และเข้าสู่โรคประจำถิ่นได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ แม้จะเข้าสู่โรคประจำถิ่นแล้ว แต่ก็ขอให้ประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย และปฏิบัติตนป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังคงให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช่จ่าย และอาจจะมีการกำหนดให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ปีละ 1 ครั้ง เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่

อย่างไรก็ตาม ยังต้องขอเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งจากข้อมูลพบว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 2 เข็ม สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ร้อยละ 50 ป้องกันการเสียชีวิตได้สูงถึงร้อยละ 90 แต่หากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 3 เข็ม จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้กว่าร้อยละ 70 และป้องกันการเสียชีวิตได้กว่าร้อยละ 90 และหากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 4 เข็ม จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้กว่าร้อยละ 80 ซึ่งในขณะนี้ จังหวัดเชียงใหม่มีวัคซีนเพียงพอและพร้อมให้บริการแก่ประชาชนที่ประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 โดยประชาชนสามารถ Walk in เข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล หรือ รพ.สต. ใกล้บ้านได้ทุกแห่ง