วันนี้ (17 พ.ค. 65) ที่ห้องประชุม 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นางปลื้มจิต สิงห์สุทธิจันทร์ คลังจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง และจังหวัดเชียงใหม่ ในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ว่า รัฐบาลได้มีโครงการต่างๆ ในการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคครัวเรือน ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน การเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งรักษาระดับและทิศทางของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมาการดำเนินโครงการ “คนละครึ่ง” ในระยะที่ 1 - 4 ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งสิ้น 11,340.3 ล้านบาท เป็นลำดับที่ 1 ของภาคเหนือ และลำดับดับที่ 9 ของประเทศ 

 ส่วนการจ่ายเงินเข้า “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 นั้น จะดำเนินการจ่ายเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน จำนวน 200-300 บาท เพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้าต่างๆ โดยไม่สามารถถอนเป็นเงินสดและสะสมได้ นอกจากนี้ยังมีการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุ จำนวน 50-100 บาท จ่ายเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกวันที่ 15 ของเดือน รวมทั้งมีเงินเพิ่มเบี้ยความพิการอีก 200 บาทต่อเดือน จ่ายเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกวันที่ 22 ของเดือนอีกด้วย

 ทั้งนี้ในปี 2565 จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐอีกครั้ง เพื่อให้ข้อมูลของประชากรที่เป็นปัจจุบันและเพิ่มความแม่นยำในการระบุตัวผู้มีรายได้น้อย โดยจะต้องใช้บัตรประชาชนแบบ Smart Card แทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการใช้จ่ายและการทำธุรกรรมต่างๆ ทั้งนี้หากประชาชนที่ยังไม่มีบัตรประชาชนแบบ Smart Card สามารถยื่นคำขอเปลี่ยนบัตรได้ที่ว่าการอำเภอทั้ง 25 อำเภอ และที่เทศบาลนครเชียงใหม่