โรงพยาบาลนครพิงค์ นำกัญชามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทางการแพทย์ พร้อมแนะนำประชาชนใช้ให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย

     วันนี้ (12 ก.ค.65) ที่ห้องประชุม 4 ชั้น 4 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จำรูญ ลิขิตวัฒนาสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส โรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์ ถึงการดำเนินงาน “คลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลนครพิงค์” ที่จะให้การรักษาโรคต่างๆ แก่ประชาชน

     นายแพทย์จำรูญ ลิขิตวัฒนาสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส โรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวว่า ทางการแพทย์ ถือว่า กัญชา มีประโยน์ต่อการรักษาผู้ป่วยหลายกลุ่มทั้งผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่ตอบสนองต่อเคมีบำบัดและได้รับการรักษาแบบประคับประคอง กลุ่มโรคทางระบบประสาทบางชนิด อาทิ โรคลมชักที่ดื้อต่อการรักษา โรคกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกปลายประสาทเสื่อม ซึ่งภาวะที่อาจได้รับประโยชน์จากการใช้กัญชา ได้แก่ ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน อัลไซเมอร์ ผู้ป่วย HIV ที่มีภาวะขาดอาหาร

     สำหรับคลินิกกัญชาโรงพยาบาลนครพิงค์ เปิดให้บริการทุกวันพุธ เวลา 08.00 - 12.00 น. เป็นการดูแล รักษาผู้ป่วยแบบประคับประคอง และเวลา 13.00 - 16.00 น. เป็นผู้ป่วยแผนปัจจุบันและแผนไทย นอกจากนี้คลินิกกัญชาศูนย์มะเร็ง (วัดพระนอนขอนตาล) โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้เปิดให้บริการทุกวันศุกร์ เวลา 08.00- 12.00 น. เป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งและผู้ป่วยประคับประคอง และเวลา 08.30 - 15.00 น. เป็นผู้ป่วยแผนไทย ซึ่งประชาชนที่สนใจในการนำกัญชามาเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาทางการแพทย์ สามารถเข้ารับบริการได้ในช่วงวัน เวลาทำการที่กำหนด ของ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ โรงพยาบาลนครพิงค์ 

     ทั้งนี้นายแพทย์จำรูญ ลิขิตวัฒนาสกุล รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์อาวุโส โรงพยาบาลนครพิงค์ กล่าวว่า การใช้กัญชาเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรักษามีทั้งประโยน์และโทษ จึงแนะนำให้ประชาชนเลือกใช้ให้ถูกวิธี ผู้ที่มีประวัติความผิดปกติทางจิต มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการใช้หรือใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์เนื่องจากอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 

     กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่มีมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันหลายประเทศได้เริ่มมีการปลดล็อกกัญชาเพื่อให้สามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์ได้ ซึ่งส่วนประกอบของกัญชาที่มีประโยชน์ในทางการแพทย์ของกัญชามี 2 ชนิด ได้แก่ สาร THC ช่วยลดอาการปวด คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ทำให้เจริญอาหารมากขึ้น มีฤทธิ์ทำให้เคลิบเคลิ้มและประสาทหลอน มีฤทธิ์เป็นสารเสพติด และสาร CBD ช่วยทำให้รู้สึกสงบ พักผ่อนได้ดี และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

************

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่

12 กรกฎาคม 2565