วันที่ 26 ก.ย. 65 ที่สำนักงานชลประทานที่ 1 นายสุดชาย พรหมมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 (ผส.ชป.1) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำและแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือพายุ “โนรู” ว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องพบว่า ณ ปัจจุบัน (26 ก.ย.) เชียงใหม่มีฝนสะสม 1,578 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย คิดเป็น 166% จ.ลำพูน มีฝนสะสม 1,200 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย คิดเป็น 126% จ.แม่ฮ่องสอน มีฝนสะสม 1,387 มม. มากกว่าค่าเฉลี่ย คิดเป็น 132% จากการที่ฝนตกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ดินชุ่มน้ำ ดังนั้นฝนที่ตกมาช่วงนี้ก็จะกลายเป็นน้ำท่า หรือน้ำที่ไหลบนผิวดินได้ทันที

“เขื่อนขนาดใหญ่มีปริมาณน้ำค่อนข้างดี เชื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลมีน้ำ 229 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 86% ของความจุ ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธาราก็ดีเช่นกัน วันนี้มีน้ำ 207 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 78% ของความจุ โดยเฉลี่ยน้ำทั้ง 2 เขื่อนนี้จะมีน้อยกว่าปริมาณนี้เกือบครึ่ง สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 19 แห่ง ขณะนี้มีน้ำเต็มความจุ 10 แห่ง ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนประชาชนด้านท้ายอ่างทุกแห่งแล้วซึ่งทุกแห่งรับทราบแล้ว อ่างทั้ง 10 แห่ง จะอยู่อำเภอทางโซนเหนือ ฝาง แม่อาย พร้าว แม่แตง ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กทั้งที่ชลประทานดูแลและทั้งที่อยู่ในความดูแลของ อปท. มีน้ำอยู่ราว 72% ซึ่งมีเต็มไปบางส่วน ได้มีการติดตามและให้คำแนะนำทุกแห่งแล้ว” ผส.ชป.1 กล่าว

สำหรับการรับมือพายุ “โนรู” ซึ่งคาดว่าจะขึ้นฝั่งในวันที่ 28 ก.ย. 65 นี้ เขื่อนขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำมากจำเป็นต้องบริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้นคือ เขื่อนแม่งัดฯ ตัวเขื่อนแม่งัดฯ ค่อนข้างมีระบบระบายน้ำที่ดี ใต้เขื่อนมีช่องระบายผ่านเทอร์บายไฟฟ้าได้ 24 ลบ.ม.ต่อวินาที มีด้วยกัน 2 ท่อ อีกท่อระบายได้ 23 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งรวมกันแล้วระบายได้ 47 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะนี้ได้ระบายน้ำออกเขื่อนอย่างต่อเนื่องที่ 44 ลบ.ม.ต่อวินาที ยังไม่เต็มศักยภาพของท่อ ซึ่งยอด 47 ลบ.ม.ต่อวินาทีจะระบายได้ต่อเมื่อน้ำต้องเต็มเขื่อน ขณะนี้มีน้ำอยู่ 86%

“ภาพรวมเขื่อนแม่งัดฯ ระบายน้ำออก 4 ล้าน ลบ.ม. จากปริมาณฝนตั้งแต่เดือนมกราคม น้ำจะไหลเข้าเฉลี่ยอยู่ที่ 2-8 ล้าน ลบ.ม. ฝนหนักจะมีน้ำเข้าเขื่อน 8 ล้าน ลบ.ม. ฝนน้อยมีน้ำไหลเข้า 2 ล้าน ขณะนี้โดยเฉลี่ยมีน้ำไหลเข้า 4 ล้าน ลบ.ม. จะเห็นว่าน้ำเข้า 4 ออก 4 จะเป็นการทำสมดุลน้ำ ทั้งนี้ทางกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ให้คำแนะนำให้เขื่อนแม่งัดฯ พร่องน้ำออกไปอีก ตัวเขื่อนแม่งัดฯ เมื่อเก็บกักน้ำที่ 227 ล้าน ลบ.ม. น้ำจะเริ่มเกินสันบานระบายน้ำแบบปรับได้ หรือ service spillway ซึ่งเป็นบานสีส้ม 3 บาน อยู่ฝั่งขวาของตัวเขื่อน ขณะนี้น้ำแม่งัดมี 229 ล้าน ลบ.ม. น้ำเกินสันบานราว 20 ซม. จากการคาดการณ์พายุโนรูจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั่วทั้งประเทศ จึงได้สั่งการให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แฝก-แม่งัดสมบูรณ์ชลเริ่มระบายน้ำผ่าน service spillway วันนี้ (26 ก.ย.) เขื่อนแม่งัดฯ จะเริ่มเปิดบานประมาณ 15 ซม. เพื่อระบายน้ำออกราว 5 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะมีน้ำไปเติมกับน้ำที่ระบายอย่างต่อเนื่องวันละ 44 ลบ.ม. ต่อวินาที รวมเป็น 48 ลบ.ม.ต่อวินาที เกินเล็กน้อย น้ำที่ไปเติมในลำน้ำแม่ปิงจะไม่ส่งผลกระทบแต่ประการใด ก็จะทำให้ช่องว่างที่เกินสันบานระบายลดลง จะรองรับน้ำจากพายุโนรูได้มากยิ่งขึ้น” นายสุดชายฯ กล่าว

สำหรับเขื่อนแม่กวงอุดมธาราซึ่งมีความจุ 264 ล้าน ลบ.ม. วันนี้มีน้ำ 207 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่รับน้ำได้อีก 56 ล้าน ลบ.ม. ตามคาดการณ์ที่ผ่านมาพายุ 1 ลูก เข้ามาเต็มๆ จะให้น้ำราว 30-50 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแม่กวงฯ ถ้าได้ “โนรู” เข้า ก็จะได้น้ำเต็มเขื่อน

นายสุดชาย พรหมมลมาศ ผส.ชป.1 กล่าวอีกว่า สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้แจ้งให้ทุกโครงการชลประทาทในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งเตือนทุกท้องที่ ท้องถิ่น ในทราบถึงการเข้ามาของพายุโนรู โดยเฉพาะประชาชนที่มีบ้านเรือนติดลำน้ำ ลำห้วย ซึ่งมีของสำคัญ ยานพาหนะ ก็ให้ยกของขึ้นไว้ที่สูง รวมถึงให้ระวังเรื่องปลั๊กไฟฟ้า แจ้งเตือนทุกพื้นที่ว่า ฝนที่ตกลงมาขณะนี้จะกลายเป็นน้ำท่าไหลลงสู่ที่ต่ำทันที เนื่องจากดินชุ่มน้ำเต็มที่แล้ว