วันนี้ (20 ต.ค 2565) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ผ่านการประชุมทางไกล (video Conference) ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดเชียงใหม่ (POC) ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 และแนวทางการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตามมติการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติ ว่าด้วยการพัฒนาความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ. 2566 โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม

สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องจัดทำกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีก 9 ฉบับให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 ธันวาคม 2565 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ โดยหลักการของ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับที่ 13 มีการปรับปรุงมาตรการทางกฎหมายให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และสภาพข้อเท็จจริงในการใช้รถใช้ถนนในปัจจุบัน รวมทั้งมาตรฐานความปลอดภัยในการขับขี่ และประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย อาทิ การกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก และการเพิ่มโทษผู้ทำผิดข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา มาตรการป้องกันการแข่งรถในทาง การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ รวมทั้งเงื่อนไขเกี่ยวกับการบันทึกคะแนน เพื่อใช้ในการควบคุมความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ.2565 โดยหากผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่กระทำความผิดจะถูกตัดคะแนน จนถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ เป็นเวลา 90 วัน หากยังฝ่าฝืนในห้วงที่ถูกสั่งพักใช้ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท เป็นต้น

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับรู้แนวทางปฏิบัติตามกฎหมายให้ทั่วถึง ก่อนการบังคับใช้ในปี 2566 เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจในแนวทางเดียวกัน นอกจากนั้น ยังได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ตามมติการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติ ว่าด้วยการพัฒนาความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด พ.ศ. 2566 โดยให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด และอำเภอ นำไปใช้ในการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่ประชาชน เพื่อสร้างความปลอดภัยในการใช้ถนนทุกช่วงเทศกาล ทั้งห้วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 รวมทั้งวันหยุดยาวทุกช่วง ภายใต้ชื่อ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” นอกจากนั้นยังเน้นย้ำให้ปฏิบัติการตามแผนบูรณาการฯ ทั้งช่วงรณรงค์และประชาสัมพันธ์ และช่วงดำเนินการ ก่อนควบคุมเข้ม 7 วัน ปฏิบัติการควบคุมเข้ม 7 วัน และภายหลังการควบคุมเข้มอีก 7 วัน ทั้งนี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจจุดเสี่ยงเพื่อนำมาวิเคราะห์จุดเกิดเหตุและใช้เป็นข้อมูลสำหรับหาแนวทางป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและขอบคุณคณะทำงานทุกภาคส่วน ที่ทุ่มเทการทำงานทุกวิถีทางเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ให้มีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ขอให้ทำงานกันให้หนักกว่าเดิมเพื่อช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชนลงให้ได้