เชียงใหม่ 17 ก.พ.- นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย) กล่าวมั่นใจว่า ในปี 2566 เศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวและคึกคักในรอบ 3 ปี พร้อมประกาศแผนและทิศทางการดำเนินงานภายใต้นโยบายเชิงรุก ให้สำนักงานเขตทั้ง 11 เขตทั่วประเทศ เร่งช่วยผู้ประกอบการ SMEs ค้ำประกันสินเชื่อ ให้คำปรึกษาทางการเงิน ตรวจเช็คสุขภาพธุรกิจ ให้ความรู้ทางการเงิน ปรับโครงสร้างหนี้ และบูรณาการความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของประเทศ และเตรียมพร้อมการบริการใหม่ผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม บนแอพพลิเคชั่น LINE @tcgfirst เข้าถึงบริการง่ายขึ้น

สำหรับแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจในเขตภาคเหนือปี 2566 มีสัญญาณที่ดี โดยผลดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อ ปี 2566 สำนักงานเขตภาคเหนือตอนบน ครอบคลุมพื้นที่ 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงรายแม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน และพะเยา อนุมัติวงเงินกว่า 9,326 ล้านบาท และออกหนังสือค้ำประกันสินเชื่อรวมกว่า 6,438 ฉบับ ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อตามโครงการของรัฐบาล ได้แก่ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. SMEs สร้างชาติ (PGS 9) โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. Micro 4 ต้องชนะ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2 กลุ่ม Micro & SMEs และ กลุ่ม Corporate

ทั้งนี้ผลดำเนินงาน 5 กลุ่มธุรกิจมาแรงอนุมัติค้ำสูงสุดในปี 2565 ได้แก่ 1. ธุรกิจบริการ 2.263.68 ล้านบาท จำนวน 1,147 ราย สัดส่วน 25.35% 2. ธุรกิจเกษตรกรรม 1,400.82 ล้านบาท จำนวน 635 ราย 15.69% 3.ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 1,375.72 ล้านบาท จำนวน 820 ราย (15.41%) 4.ธุรกิจผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ 1,004.07 ล้านบาท จำนวน 1.847 ราย สัดส่วน 11.24% 5.ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค 490.35 ล้านบาท จำนวน 754 ราย สัดส่วน 5.49% ในปีนี้ บลย. จะเร่งให้ความช่วยเหลือในทุกหางพื่อให้ผู้ประกอบการ SMES ได้กลับมาพื้นตัว ยืนได้และก้าวต่อไป ในช่วงเศรษฐกิจพื้นตัว โดยมีภาคท่องที่ยวเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าการค้ำประกันสินเชื่อ 120,000 ล้านบาท มั่นใจในเขตภาคเหนือจะช่วยผู้ประกอบการเช้าถึงสินเชื่อ อนุมัติค้ำประกันกว่า 10,000 ล้านบาท.