สำนักงานคลังจังหวัดเชียงใหม่ เตือน “ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ให้ใช้จ่ายตามจริง อย่านำไปแลกเป็นเงินสดกับร้านค้า ย้ำผู้พิการที่รับเบี้ยความพิการจาก อปท. เดือนละ 800 บาท ไปดำเนินการผูกพร้อมเพย์ เพื่อรับเบี้ยเพิ่มเติมอีกเดือนละ 200 บาท

วันนี้ (4 ก.ค. 66) ดร.ปราโมทย์ บุญตันจีน ผู้อำนวยการกลุ่มงานนโยบายและเศรษฐกิจจังหวัด สำนักงานคลังจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ถึงผลการอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มายืนยันตัวตนแล้ว จำนวน 442,829 ราย โดยกลุ่มเกษตรกรที่ผ่านคุณสมบัติ จำนวน 11,096 ราย ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว 5,821 ราย ส่วนกลุ่มผู้พิการที่ผ่านการพิจารณาฯ แต่รับเงินเบี้ยความพิการเป็นเงินสด มีจำนวน 2,042 ราย ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว 1,882 ราย โดยผู้ที่ยังยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ สามารถไปดำเนินการได้ที่ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. จนถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2566 และที่ธนาคารกรุงไทยฯ ซึ่งไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการให้บริการ

ในส่วนของผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการและผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ได้รับเบี้ยความพิการจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เดือนละ 800 บาท จะได้รับเงินเพิ่มเติมเบี้ยความพิการเดือนละ 200 บาท ทุกวันที่ 20 ของเดือน รวมเป็นเงิน 1,000 บาท ซึ่งหากผู้พิการได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาท เป็นเงินสด ขอให้ผู้พิการ หรือผู้ดูแล/ผู้อนุบาล ไปดำเนินการเปิดบัญชีธนาคารและผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน จากนั้นแจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ของตนเอง เพื่อรับเบี้ยความพิการเพิ่มเติมในระบบพร้อมเพย์อีกเดือนละ 200 บาท

ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนและร้านค้าว่า “ขอให้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ ใช้จ่ายซื้อสินค้าจริง อย่านำไปแลกเป็นเงินสดกับร้านค้า เพราะไม่สามารถนำเงินในบัตรฯ ไปแลกเป็นเงินสดได้” ซึ่งขณะนี้มีการร้องเรียนเข้ามาแล้ว และจะได้ดำเนินการตรวจสอบต่อไป

/////////////////////

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ / ข่าว-ภาพ

4 กรกฎาคม 2566