นักธุรกิจเชียงใหม่เปลี่ยนแนวสู้ภาวะเศรษฐกิจซบเซา เปลี่ยนที่นาย่านเศรษฐกิจบ้านถวาย เปิดเป็น รีสอร์ท-ร้านกาแฟกลางทุ่งนา หวังเป็น แลนด์มาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ ดีเกินคาดกระแสตอบรับทำที่ดินราคาพุ่ง เศรษฐกิจชุมชนตื่นตาม

เชียงใหม่ 12 ตุลาคม- ที่บริเวณกลางทุ่งหน้าบ้านถวาย ตำบลขุนคง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเปิดตัวร้านอาหาร ร้านกาแฟและรีสอร์ท “โต้งนาคอทเทจรีสอร์ท” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนที่มาร่วมงานวันเปิดบริการทางการ ซึ่งมีการเนรมิตสถานที่ท่ามกลางธรรมชาติบรรยากาศของกลางทุ่งนาแบบ 360 องศา มีการสร้างน้ำตกจำลอง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนหย่อนใจ อีกแห่งที่นักท่องเที่ยวต่างประทับใจ อีกทั้งมีการสร้างรีสอร์ท โดยจำลองที่พักในสไตล์มัลดีฟส์ อยู่กลางทุ่งนา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย

นางสาวอารัญญา ทะรินทร์ เจ้าของ โต้งนาคอทเทจรีสอร์ท เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ ทำกิจการจังเกิ้ล เดอ คาเฟ่ ร้านกาแฟแบบแอดเวนเจอร์จนประสบความสำเร็จทั้งที่สาขา อ.แม่ริมและอ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสนใจให้การเดินทางมาเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากตน ได้ย้ายถิ่นฐานมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลขุนคง อ.หางดงย่านหมู่บ้านถวายมาเป็นเวลาระยะเวลากว่า 20 ปี ประกอบกับปัจจุบันการท่องเที่ยวในพื้นที่บ้านถวาย ซึ่งเป็นแหล่งแกะสลักไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ค่อนข้างซบเซา ตนก็ทำธุรกิจดานเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ไหวเพราะเศรษฐกิจซบเซาหนักก็ต้องปรับเปลี่ยนแนวทางมาทำร้านกาแฟจนกระแสตอบรับดีทั้ง 2 สาขา จึงคิดอยากจะตอบแทนพื้นที่ตนเองบ้างช่วยเหลือประชาชนในท้องถิ่นอีกทาง จึงได้มีโครงการเนรมิตพื้นที่กลางทุ่งนา ซึ่งเป็นพื้นที่นาของตนกว่า 10 ไร่ ให้เกิดเป็นรีสอร์ท ร้านอาหารและร้านกาแฟ บรรยากาศสุดฟินแห่งนี้ด้วยงบประมาณหลักหลายสิบล้านบาท นอกจากนี้ตนนี้ยังได้มีการจ้างงานคนในพื้นที่ เข้ามาทำงานในธุรกิจของตน เพื่อเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชน โดยหวังว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้กลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่บ้านถวาย เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนอีกครั้งหนึ่ง โดยเชื่อว่าจะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่มาพักผ่อนด้วยกาแฟ อาหารหลักสิบหลักร้อยแต่ธรรมชาติหลักสิบล้านสุดประทับใจ ซึ่งก่อนเปิดตัวก็ประชาสัมพันธ์ผ่านทางโซเชียลตอบรับดีมาก คนมาทุกวันหลายร้อยคน และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นักธุรกิจรายนี้กล่าวว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้เราอยู่กับที่ไม่ได้ ต้องหาทางออกและพยายามช่วยชุมชน แน่นอนว่าตอนนี้กระแสต่างๆ จากที่กลางทุ่งนาและเส้นทางที่เงียบเหงากลับมาคึกคัก มีถนนหนทาง ไฟฟ้าเข้ามา ที่ดินในพื้นที่กลายเป็นแหล่งที่ต้องการราคาไร่ละ 2-3 แสนมาเป็นไร่ละล้านบาท เศรษฐกิจในชุมชนข้างเคียงดีขึ้นผิดตา ดีใจที่ได้ช่วยพัฒนาท้องถิ่นที่เราอาศัยและเป็นสิ่งที่สะท้อนว่า เราไม่หยุดนิ่งเราก็อยู่รอดในภาวะเช่นนี้