News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
ส่อวุ่น! ทายาทเจ้าของที่ดินถวายฎีกาขอตรวจสอบหลังมีผู้นำที่พระราชทานไปใช้ผิดวัตถุประสงค์และปล่อยมีการบุกรุกขอครอบครองปรปักษ์ พร้อมพบพิรุธบัญชีเงินมูลนิธิฯหายลึกลับในกลีบเมฆ
เชียงใหม่ 21 ส.ค.- เนื่องด้วย นายศรุต กาญจนกามล ทายาทผู้บริจาคที่ดินถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2519 และที่ดินดังกล่าวได้รับพระราชทานให้เป็นของมูลนิธิช่วยเหลือการพัฒนาอนามัยและท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2522 พร้อมทรัพย์สินของมูลนิธิทุนเริ่มแรกคือเงินสดจำนวน 338,703.16 บาท ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา ลงวันที่ 15 มีนาคม 2566 เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ในที่ดินแปลงที่บ้านหมู่ 1 ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ จำนวน 8 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวา ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานแก่มูลนิธิช่วยเหลือการพัฒนาอนามัยและท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ใช้ประโยชน์ ต่อมาปรากฏว่าส่วนราชการอนุญาตให้บุคคลอื่นเข้าไปอาศัยในที่ดินและมีการอ้างครอบครองปรปักษ์ที่ดินดังกล่าวต่อศาล และไม่มีการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ฯ เพื่อประโยชน์สาธารณะ จึงประสงค์ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้วยเหตุนี้ ทางนายกฤษณ์ กาญจนกุญชร อธิบดีกรมราชเลขานุการในพระองค์ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการองคมนตรี จึงลงนามในหนังสือในนามสำนักงานองคมนตรีถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย สำเนาถึง อธิบดีกรมที่ดินและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงวันที่ 10 เมษายน 2566 เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวตามสำเนาฎีกา ซึ่งก่อนทำการยื่นฎีกาเนื่องจากพบว่า มีผู้ร้องขอครอบครองปรปักษ์ในที่ดินแปลงนี้ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งศาลนัดไต่สวนวันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมาทำให้ผู้ร้องฎีกาและพวกคัดค้านต่อศาล ศาลจึงมีหนังสือให้ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่และอำเภอเมืองเชียงใหม่ทำการตรวจสอบก่อนนัดไต่สวนอีกครั้งวันที่ 28 สิงหาคม 2566 นี้
ทั้งนี้ทางนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ได้มีหนังสือถึงผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.สันผีเสื้อพร้อมสำเนาหนังสือสำนักงานองคมนตรีให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่พิพาทพร้อมศูนย์ดำรงธรรม ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ประกอบกับการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิฯ วันที่ 8 มีนาคม 2566 เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานของมูลนิธิพร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่หลังจากชุดเดิมมีการเกษียณอายุราชการโดยตำแหน่ง ในวาระก็ได้มีการพูดถึงกรณีที่ดินถูกฟ้องครอบครองปรปักษ์ด้วย รวมทั้งความคืบหน้า เมื่อปี 2552 ผู้ว่าราชการจังหวัดสมัยนั้นได้สั่งให้กรรมการและเหรัญญิกของมูลนิธิฯ ทำการตรวจสอบหาบัญชีของมูลนิธิฯที่สูญหายไปพร้อมเงินสดเริ่มแรกของมูลนิธิฯจำนวนกว่า 3.38 แสนบาทดังกล่าว รวมทั้งให้ตรวจสอบที่ดินของมูลนิธิฯที่มีการร้องเรียนว่า เกิดการบุกรุกใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งก็ยังไม่มีความคืบหน้าจนถึงขณะนี้
ล่าสุดคณะกรรมการจัดตั้งทนายเพื่อคัดค้านการยื่นขอครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของมูลนิธิฯ ในวันนัดไต่สวน 28 ส.ค.นี้ซึ่งต้องดูว่าผู้ที่ร้องขอครอบครองปรปักษ์จะมาเข้าสู่กระบวนการไต่สวนตามศาลนัดอีกหรือไม่ รวมทั้งกรรมการผู้เป็นทายาทผู้ถวายที่ดินจะถวายฎีกาเพื่อแจ้งข้อมูลที่เกิดขึ้นกับมูลนิธิฯอีกครั้งด้วย
สำหรับมูลนิธิช่วยเหลือการพัฒนาอนามัยและท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่ มีวัตถุประสงค์ คือ
1. เพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ 2.เพื่อส่ง เสริมให้มีการพัฒนาท้องถิ่น ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ประชาชนได้รับความ
สะดวก สบาย และมีความเป็นอยู่ดีขึ้น 3.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ให้การสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน 4.เพื่อขจัดปัดเป่าแก้ไขปัญหาความ เดือดร้อนเฉพาะหน้าในกรณีเร่งด่วนที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนเนื่องจากภัยพิบัติต่าง ๆ 5.เพื่อร่วมมือกับองค์กร การกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง โดยสำนักงานของมูลนิธิตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ทรัพย์สินของมูลนิธิทุนเริ่มแรกคือเงินสดจำนวน 338,703.16 บาท มีที่ดินจำนวน 2 แปลง แปลงแรกอยู่ที่จังหวัดลำพูน 18 ไร่ 25 ตารางวา แปลงที่ 2 จังหวัดเชียงใหม่อยู่พื้นที่ บ้านหมู่ 1 ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 8 ไร่ 2 งาน 18 ตารางวา โดยนางสว่างศรี กาญจนกามล ได้ถวายที่ดินเพื่อเป็นพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ปี 2519 ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานให้มูลนิธิฯดังกล่าวปี 2522 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯโดยตำแหน่ง เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือดูแลประชาชนดังกล่าว มีการตั้งคณะกรรมการบริหารและประชุมตามวาระ จนกระทั่งล่าสุดทายาทผู้บริจาคที่ดินซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการมูลนิธิฯ พบว่า มีข้อพิรุธในการบริหารจัดการเนื่องจากมีการนำที่ดินดังกล่าวไปสร้างบ้านให้กับประชาชนในพื้นที่ของเทศบาลตำบลสันผีเสื้อบางรายในที่ดินถึงกว่า 40 ราย และยังอ้างเป็นโครงการบ้านท้องถิ่นไทยเทิดไท้องค์ราชัน 80 พรรษา ตั้งแต่ปี 2550 ที่เทศบาลยังไม่ได้ยกระดับจากองค์การบริหารส่วนตำบล อีกทั้งบัญชีธนาคารของมูลนิธิก็สูญหายอย่างผิดปกติด้วย ซึ่งเป็นการละเลยหรือมิได้บริหารตามวัตถุประสงค์ถือว่ากระทำผิดกฎหมายด้วย
อย่างไรก็ตามทางนายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) พร้อม จนท.ศูนย์ดำรงธรรม และนายศรุต กาญจนกามล ผู้รับมอบอำนาจจากมารดาคือนางพิมพ์พรรณ เลาหวิสุทธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของมูลนิธิฯ เข้าตรวจสอบทะเบียนราษฎรของบ้านอยู่อาศัยจำนวน 8 หลังจากทั้งหมดประมาณ 40 หลัง ที่บุกรุกอยู่ในที่ดินของมูลนิธิฯ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลสันผีเสื้อแล้ว เบื้องต้นพบนำเลขที่บ้านอื่นมาสวมสิทธิ์ด้วย.
เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2566 11:26:33 น. (view: 10391)