News & Activity

ข่าวและกิจกรรม

นายกฯ เป็นประธานเปิดปฏิบัติการฝนหลวง บรรเทาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง PM2.5 พื้นที่ภาคเหนือ ประจำปี 2567



  วันที่ 11 มกราคม 2567 เวลา 09.45 น. ณ บริเวณท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง PM2.5 บริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ประจำปี 2567 พร้อมด้วย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร       คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวให้การต้อนรับ เพื่อปฏิบัติการรับมือกับสภาพอากาศพื้นที่ภาคเหนือ ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน ที่มักประสบปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และเป็นการสานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ถือเป็นภารกิจตามยุทธศาสตร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นอกจากนี้ยังได้มีการเข้าร่วมประชุมติดตามการปฏิบัติการฝนหลวง ณ หอประชุมเดชะตุงคะ กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังรายงานสรุปแผนการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM2.5 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การรายงานสรุปสถานการณ์สภาพอากาศและการพยากรณ์อากาศ โดยกรมอุตุนิยมวิทยา การรายงานสรุปแผนงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการรายงานแผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายและตรวจติดตามความพร้อมในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละออง PM2.5และรับชมการสาธิตวิธีการพ่นละอองน้ำแรงกันสูงของเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร อีกด้วย

  นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า สำหรับในปี 2567 

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศ เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

ของประชาชน ได้แก่ 

  -หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2567 เป็นต้นไป ช่วยเหลือพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 15 จังหวัด

  -หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดระยอง และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2566 เป็นต้นมา ช่วยเหลือพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

  นอกจากนี้ยังได้มีแผนการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2567 จำนวน 14 หน่วยปฏิบัติการทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่ป่าไม้บรรเทาและป้องกันการเกิดไฟป่า ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5  การเติมน้ำต้นทุนให้กับ

อ่างเก็บน้ำ บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค และการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สำหรับในพื้นที่ภาคเหนือ ได้กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ ภายใต้การ

บูรณาการร่วมกันระหว่างจังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งจะใช้เครื่องบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ลำ เครื่องบินขนาดกลาง จำนวน 4 ลำ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์พ่นละอองน้ำสู่ชั้นบรรยากาศ เครื่องบินขนาดเล็ก จำนวน 4 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 ลำ พร้อมชุดกระเช้าตักและโปรยน้ำดับไฟป่า โดยมีแผนดำเนินงานและปฏิบัติการหลักคือ ปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อให้มีฝนตกในพื้นที่ที่ต้องการ เพื่อเร่งกระบวนการธรรมชาติทำให้เกิดเป็นเม็ดน้ำ โดยเม็ดน้ำพัฒนาตัวเป็นเม็ดฝนตกลงมา

เป็นน้ำฝน  ปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อดัดแปรสภาพอากาศให้มีช่องในการเคลื่อนตัวของกระแสอากาศไหลขึ้นจาก

ชั้นอากาศที่ปิดกั้นอยู่ในพื้นที่ต้องการ เพื่อเร่งกระบวนการธรรมชาติ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศ 

ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5  ลงได้ และ การสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในการบูรณาการร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 และจังหวัดเชียงใหม่ ในภารกิจการทิ้งน้ำดับไฟป่าในพื้นที่

ลาดสูงชัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปถึงได้ เพื่อสามารถบรรเทาปัญหาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ทรัพย์สิน และสุขภาพของพี่น้องประชาชนได้

   นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการปฏิบัติการทำฝนบรรเทาปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในปี 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการนำเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ มีประยุกต์ใช้ โดยได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ทำการวิจัยและทดสอบการประยุกต์ใช้อากาศยานสำหรับพ่นละอองน้ำแรงดันสูงเพื่อควบคุมและบรรเทาฝุ่นละออง PM2.5  ที่ระดับความสูง 5,000-6,000 ฟุต หรือประมาณ 1,700-2,000 เมตร โดยใช้ท่อโปรยติดตั้งบนอากาศยานชนิด CASA และ CN-235 และติดเครื่องพ่นสเปรย์ฉีดน้ำแรงดันสูง พร้อมกับบรรจุถังน้ำ จำนวน 3 ถัง ที่สามารถบรรจุน้ำปริมาตรรวมทั้งหมด

ได้กว่า  2,000 ลิตร และใช้แรงดันในการส่งน้ำไปยังหัวฉีดทั้ง 12 หัว ที่ติดตั้งอยู่ใต้เครื่องบิน ซึ่งจากการทดสอบที่ผ่านมา พบว่า การกระจายตัวของละอองน้ำที่ภาคพื้น หัวฉีดสามารถทำระยะการพ่นไกลได้สูงสุดถึง 10 เมตร และครอบคลุมพื้นที่ 100 ตารางเมตร โดยจะทำการปล่อยละอองน้ำเป็นระยะเวลา 40 นาทีต่อรอบการปฏิบัติ และพบว่าวิธีดังกล่าวจะสามารถลดปริมาณฝุ่น PM2.5  ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะสามารถเพิ่มความชื้นและช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในอากาศควบคู่ไปกับการปฏิบัติการฝนหลวง ซึ่งในปี 2567 จึงได้มีการปรับแผนการปฏิบัติการให้เร็วมากยิ่งขึ้น 

เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์สภาพอากาศที่จะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร 

ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน พี่น้องเกษตรกร งดการเผาทุกประเภท เพื่อช่วยกันลดปัญหามลพิษจากหมอกควันและฝุ่นละออง และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหะสถาน และสามารถติดต่อประสานแจ้งข้อมูลและขอฝนหลวงได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100 ต่อ 410 หรือช่องทางเพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร, Instagram, 

Tiktok, Twitter : @drraa_pr

เขียนเมื่อ 11 มกราคม 2567 11:01:57 น. (view: 10336)

รูปภาพ-เอกสารประกอบ




FM100 CMU Logo
สถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน คณะการสื่อสารมวลชน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 239 ถ.ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ 50200

Call us

On air : 053-942711-2
Office : 053-942710

Email & Fax

EMAIL : fm100@cmu.ac.th
          fm100cmu@yahoo.com

LINE :  FM100CMU 

 

ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน ความคิดเห็นจากสาธารณะเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน
https://forms.gle/e4E3rYTnv3LvxcxN8

ติดตาม FM100 ได้ทุกช่องทาง

รับฟังรายการสดได้ทาง