เชียงใหม่ 13 ก.พ.- สถานการณ์ปัญหาค่าฝุ่น PM 2.5 มลพิษทางอากาศของพื้นที่ภาคเหนือเริ่มขยับตัวสูงเกินค่ามาตรฐานอคกทั้งมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก โดยวันนี้ดัชนีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษแจ้งว่า ค่า PM 2.5 มีค่าสูงขึ้นและเกินมาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ ดัชนีคุณภาพอากาศ aqi เกินค่ามาตรฐานสูงหลายที่ทั้งลำปาง ลำพูน เชียงราย ตาก เชียงใหม่และน่าน โดยเชียงใหม่ค่า PM 2.5 สูงสุดอยู่ที่อำเภอแม่แตง, แม่แจ่มและกัลยาณิวัฒนา โดยมีค่าสูงสุดถึง 217 ไมครอน ที่ตำบลอินทขิลอำเภอแม่แตงและจากการคาดหมายแนวโน้มอัตรากรระบายอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบนพบว่า ช่วงนี้บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มอ่อนกำลังลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนืออุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและแปรปรวนไว้ด้วย ทั้งนี้ในช่วงเย็น กลางคืนจนถึงช่วงเช้าของทุกวันอากาศระบายได้น้อยมาก(สภาพอากาศปิด) เมื่อเกิดการเผาไหม้จะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง หรือฝุ่นควัน เนื่องจากอากาศมีการยกตัวได้น้อยและอากาศจมตัวช่วงเวลานี้ฝุ่นละอองหรือฝุ่นควันจะเกิดการสะสมได้

โดยในวันที่ 13- 15 และ 20 -21 ก.พ. 67 อากาศจะระบายได้ระดับปานกลางถึงดี ส่วนห้วงวันที่ 16-19 ก.พ. 67 อากาศระบายได้ระดับดีมากหลังจากมีฝน แต่ในช่วงก่อน 11.00 น. และ หลัง 19.00 น. ของทุกวัน อัตราการระบายได้น้อยมาก(Poor) สภาพอากาศปิด การเผาในที่โล่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศมาก ควรงดการบริหาร จัดการเชื้อเพลิงและงดเผากลางแจ้งทุกชนิดทันที ในช่วงประมาณเวลา 13.00 - 19.00 น.

นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่า วันนี้ได้กำชับย้ำพื้นที่ที่ยังคงค้างการจัดการเชื้อเพลิงให้ยุติและเฝ้าระวังโดยเฉพาะจุดซ้ำซาก 14 อำเภอและจัดหน่วยเฝ้าระวังปัญหาการลักลอบเผา ซึ่งนับจากนี้อากาศร้อนขึ้นก็จะทำให้ความเสี่ยงมีสูงขึ้นด้วย