News & Activity

ข่าวและกิจกรรม

หัวค่ำ 6 มีนาคม 2567 ปรากฏลูกไฟขนาดใหญ่อีกครั้ง แตกเป็นหลายชิ้นส่วน เหนือท้องฟ้าหลายจังหวัดของไทย ครั้งนี้คาดอาจเป็นดาวตกชนิดระเบิด 

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เผย ช่วงหัวค่ำ 6 มีนาคม 2567 มีผู้พบเห็นแสงสว่างวาบเป็นทางยาว เหนือท้องฟ้าหลายพื้นที่ในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ของไทย  แสงดังกล่าวปรากฏขึ้นประมาณสองครั้ง เวลาประมาณ 19:13 น. มีลักษณะหัวเป็นสีฟ้า หางเป็นสีเขียว จากนั้นแตกออกเป็น 2-3 ส่วน และเวลาประมาณ 20:21 น. ปรากฏขึ้นอีกหนึ่งครั้ง มีสีส้ม มองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน คาดว่าเป็น “ดาวตกชนิดระเบิด” 



นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สดร. กล่าวว่า สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้าคล้ายดาวตก 2 ครั้ง ติดต่อกัน ครั้งแรกเวลาประมาณ 19:13 น. ปรากฏเป็นทางยาวพาดผ่านท้องฟ้าจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ส่วนหัวมีสีฟ้า ส่วนหางมีสีเขียว ขณะเดียวกันได้แตกออกเป็น 2-3 ส่วน ส่วนหัวมีสีส้ม หางสีเขียว จากนั้นอีกประมาณ 1 ชั่วโมงถัดมา ปรากฏขึ้นอีกครั้งเวลาประมาณ 20:21 น. มีสีส้ม พบเห็นแต่ละครั้งนานประมาณ 10 วินาที



เหตุการณ์ครั้งนี้พบเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจนในหลายจังหวัดกระจายอยู่เกือบทุกภูมิภาคของไทย  อาทิ  ราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์  อยุธยา ฉะเชิงเทรา กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา ปราจีนบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี นครสรรค์ ศรีสะเกษ  ชุมพร บุรีรัมย์ ชลบุรี สมุทรสาคร นครปฐม นครนายก ระยอง ชัยภูมิ เชียงใหม่ เป็นต้น 



จากข้อมูลดังกล่าวคาดว่าอาจเป็นดาวตกชนิดระเบิด ซึ่งเกิดจากวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็ก เช่นดาวเคราะห์น้อย หรือเศษชิ้นส่วนที่กระเด็นจากการพุ่งชนบนดวงจันทร์หรือดาวอังคาร เป็นต้น เมื่อเศษชิ้นส่วนดังกล่าวเคลื่อนที่เข้ามายังชั้นบรรยากาศโลก เสียดสีกับอนุภาคในชั้นบรรยากาศ เกิดความร้อนสูงจนลุกไหม้จึงมองเห็นเป็นแสงสว่างวาบพาดผ่านท้องฟ้า ที่เราเรียกว่า ดาวตก  



กรณีที่เศษชิ้นส่วนมีขนาดใหญ่ ความร้อนและแสงสว่างที่เกิดขึ้นก็จะมากขึ้นตามไปด้วย หากมีความสว่างเทียบเท่ากับความสว่างของดวงจันทร์เต็มดวง หรือเกิดการระเบิดขึ้นกลางอากาศ นักดาราศาสตร์จะเรียกว่า ดาวตกชนิดระเบิด (Bolide)



นายศุภฤกษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดาวตกในครั้งนี้ยังปรากฏสีที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งสีเขียว สีฟ้า สีส้ม โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อสีของดาวตก ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยได้แก่ องค์ประกอบทางเคมี โมเลกุลของอากาศโดยรอบ ขณะพุ่งเข้าชนกับชั้นบรรยากาศโลกด้วยความเร็วสูงมาก เกิดการเสียดสีและเผาไหม้ ทำให้อะตอมของดาวตกเปล่งแสงออกมาในช่วงคลื่นต่าง ๆ เราจึงมองเห็นสีของดาวตกปรากฏในลักษณะที่แตกต่างกัน 



ในแต่ละวันจะมีวัตถุขนาดเล็กผ่านเข้ามาในชั้นบรรยากาศโลกเป็นจำนวนมาก เราสามารถพบเห็นได้เป็นลักษณะคล้ายดาวตก และยังมีอุกกาบาตตกลงมาถึงพื้นโลกประมาณ 44-48.5 ตันต่อวัน แต่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ห่างไกลผู้คน จึงไม่สามารถพบเห็นได้ ดาวตกนั้นจึงเป็นเรื่องปกติ และสามารถอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์  





 _________



งานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

Tel. 053-121268-9 ต่อ 210-211 , 081-8854353 Fax. 053-121250

E-mail: pr@narit.or.th   Website : www.narit.or.th

Facebook : www.facebook.com/NARITpage

Twitter : @NARIT_Thailand,  Instagram : @narit_thailand

เขียนเมื่อ 07 มีนาคม 2567 13:42:14 น. (view: 10341)

รูปภาพ-เอกสารประกอบ




FM100 CMU Logo
สถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน คณะการสื่อสารมวลชน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 239 ถ.ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ 50200

Call us

On air : 053-942711-2
Office : 053-942710

Email & Fax

EMAIL : fm100@cmu.ac.th
          fm100cmu@yahoo.com

LINE :  FM100CMU 

 

ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน ความคิดเห็นจากสาธารณะเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน
https://forms.gle/e4E3rYTnv3LvxcxN8

ติดตาม FM100 ได้ทุกช่องทาง

รับฟังรายการสดได้ทาง