“โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง (คบ.แม่แตง) เปิดน้ำในปริมาณ 0.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่ 15:00 น ของวันที่ 4 เมษายน 2567 โดยเทศบาลนครจัดเจ้าหน้าที่มาเรียงกระสอบทรายดักน้ำในคลองส่งน้ำสายใหญ่แม่แตง ซึ่งจากการตรวจสอบปริมาณน้ำในคูเมือง เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 พบว่า คูเมืองยังต้องใช้น้ำอีกประมาณ 170,000 ลูกบาศก์เมตร โดยจะส่งน้ำผ่านประตูระบายน้ำคลอง 18 ซ้าย เข้าสู่คูเมืองที่แจ่งหัวริน กำลังการส่งน้ำประมาณวันละ 25,000 ลูกบาศก์เมตร หรือ 0.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะใช้เวลา 7 วัน น้ำจะเต็มคูเมือง ก็จะเต็มในวันที่ 12 เมษายน 2567 โดย คบ.แม่แตง ได้ประสานขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ใช้น้ำฝ่าย 3 และฝ่าย 4 ซึ่งเป็นรอบเวรการใช้น้ำ และน้ำจะผ่านประตูคลอง 18 ซ้าย โดยประสานให้แบ่งน้ำเข้าสู่คลอง 18 ซ้าย เพื่อรับเทศกาลสงกรานต์ร่วมกับชาวเชียงใหม่”

ข้อมูลจาก สิทธิศักดิ์ อยู่สำราญ หรือ “ช่างแชมป์” หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 (สบ.3) รักษาการ สบ.2 คบ.แม่แตง

“คูเมืองเชียงใหม่” จุดเล่นสาดน้ำยอดฮิตของเชียงใหม่ เกือบจะทั้ง 4 ด้านของคูเมือง...คูเมืองด้านนอก เว้นเพียงแค่ช่วงจุดกลับรถประตูสวนดอกถึงแจ่งหัวรินที่ดูจะบางตา นอกนั้นตลอดคูเมืองผู้คนมากมายพร้อมอุปกรณ์ “ถังน้ำ” ทั้งเดินเล่น ปักหลักเล่น มากับรถกระบะ คลาคล่ำตลอดเส้นทางรอบคูเมืองเชียงใหม่...

รถติดหนึบยาวเหยียด เป็นเรื่องปกติ ไม่จะเป็นไม่เล่นสาดน้ำ อย่าเฉียดเข้าไปคูเมือง

“เทศบาลนครเชียงใหม่ ดำเนินการขุดลอกทำความสะอาดรอบคูเมืองเชียงใหม่ ประจำปี 2567 จึงมีความจำเป็นต้องลดระดับน้ำ เพื่อความพร้อมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 1-5 เมษายน 2567” เป็นประกาศของเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อปฏิบัติการขุดลอกทำความสะอาดคูเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับโรยปูนขาว เพื่อรองรับน้ำที่ชลประทานจะส่งมาสนับสนุนสำหรับใช้เล่นสาดน้ำในช่วงเทศกาลสงกรานต์

“ผู้สื่อข่าว” ร่วมสำรวจกับคณะ “ช่างแชมป์” คูเมืองหลายจุดเทศบาลพร่องลดน้ำจนแทบจะแห้งขอด ขับรถวนรอบคูเมือง จุดที่แห้งล้วนเป็นจุดยอดนิยมที่คนเล่นสาดน้ำกันมาก อย่างเช่น ช่วงประตูท่าแพ หน้าตลาดสมเพชร และจุดสุดพีค...คูเมืองด้านถนนมณีนพรัตน์

“คูเมืองกว้างซัก 20 เมตร น้ำที่ต้องการให้ได้ระดับที่ต้องการเฉลี่ยก็น่าจะประมาณ 1 เมตร คร่าวๆ ต้องเติมน้ำเข้ามา 170,000 ลบ.ม. ก็น่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน วันที่ 12 เมษา น้ำคูเมืองก็น่าจะเพียงพอที่เล่นสงกรานต์ได้” ช่างแชมป์ ให้ข้อมูลเบื้องต้นขณะขับรถวนดูน้ำรอบคูเมืองเชียงใหม่

หันไปดูแผนการส่งน้ำสำหรับการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งและสนับสนุนการผลิตน้ำประปา ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่แตง ในปี 2566/67 พบว่า การส่งน้ำแบ่งออกเป็น 12 รอบเวร รอบทที่จะแบ่งน้ำสนับสนุนคูเมืองเชียงใหม่ เป็นรอบเวรที่ 10 ต่อรอบเวรที่ 11 โดยรอบเวรที่ 10 เริ่มส่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย. สิ้นสุดวันที่ 7 เม.ย. รอบนี้เป็นรอบส่งให้พื้นที่คลองซอย 18 ก็คลองซอยที่ส่งน้ำให้คูเมืองเชียงใหม่ด้วย ส่วนรอบเวรที่ 11 ส่งตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. จะสิ้นสุดวันที่ 13 เม.ย. รอบนี้ส่งให้พื้นที่คลองซอย 19

จากการประสานโซนแมนที่ดูแลพื้นที่เกษตร ทั้ง 2 พื้นที่คลอง พบว่า มีความต้องการใช้น้ำลดลง ความต้องการใช้น้ำน้อย การส่งน้ำสนับสนุนคูเมืองเชียงใหม่ชลประทานส่งให้เต็มศักยภาพที่คลองซอย 18 จะส่งไปได้ ที่ 0.3 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งนั่นหมายความว่า น้ำคูเมืองเชียงใหม่จะเพียงพอต่อการใช้สำหรับกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ ก่อนวันสงกรานต์ 13 เมษายน หนึ่งวัน!!

ลำดับความสำคัญในการจัดสรรน้ำเริ่มจากน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค อันนี้เป็นอันดับ 1 รองลงมา น้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ น้ำเพื่อการเกษตร และน้ำเพื่อการท่องเที่ยว-อุตสาหกรรม จะว่าไปเป็นนโยบายของกรมชลประทานที่ใช้มานานมากแล้ว เริ่มใช้จริงจังช่วงแล้งปี 2558/59 ปีที่แม่น้ำปิงเห็นผืนทรายท้องแม่น้ำ