เชียงใหม่ 23 ธ.ค.- ที่อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศการรับสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่วันแรกเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้สมัครพร้อมกองเชียร์มารอตั้งแต่ก่อนเปิดรับสมัคร 08.00น.โดยเฉพาะผู้สมัครนายก อบจ. 2 รายที่ถูกจับตาเป็นคู่แข่งสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้จากพรรคเพื่อไทยคือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร เจ้าของเก้าอี้เดิมจากพรรคเพื่อไทยส่งลงสมัครมาพร้อมกับผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้ง 42 เขต และทีมงาน และ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ จากพรรคประชาชนที่มาพร้อม ส.ส.ในพื้นที่และกองเชียร์ใส่เสื้อสีส้ม พอถึงเวลาทาง กกต.อบจ. ได้เชิญผู้สมัครทั้ง 2 เพื่อทำความเข้าใจในระเบียบปฏิบัติและตกลงเรื่องหมายเลขสมัคร ทั้งสองตกลงไม่ได้จึงต้องจับสลากผลปรากฏว่า นายพิชัยจับหมายเลขก่อนแต่ได้หมายเลข 2 นายพันธุ์อาจ ได้หมายเลข 1 ทันทีที่ได้หมายเลขบรรดากองเชียร์ตั้งส่งเสียงดังกระหึ่ม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้ผู้สมัครได้ดำเนินการรับสมัครอย่างเป็นทางการรวมทั้ง ส.อบจ.ก็ใช้วิธีการเดียวกัน 

ทั้งนี้นายพิชัยยืนยันความมั่นใจว่า จะขอสานต่องานที่ทำอยู่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนหลายด้าน อีกครั้งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็มาช่วยขึ้นเวทีหาเสียงในวันนี้รวมถึงส.ส.และทีมงานพรรคเพื่อไทยที่ช่วยกันทำงาน ผู้สมัคร ส.อบจ.ทั้ง 42 เขตก็เป็นผู้มีประสบการณ์ทำงานควบคู่กันมาอจึงมั่นใจว่า จะสามารถชนะการเลือกตั้งและมีคะแนนมากกว่าครั้งที่ผ่านมาที่ได้ไปกว่า 400,000 คะแนน 

ขณะที่นายพันธุ์อาจก็ให้ความมั่นใจว่า จากประสบการณ์ในด้านเศรษฐกิจและเกี่ยวข้องรวมถึงทีมงานของพรรคประชาชนที่ทำงานในพื้นที่ต่อเนื่องก็มั่นใจว่า มีความพร้อมพอที่จะเข้ามาบริหารและเปลี่ยนจังหวัดเชียงใหม่ให้มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นรวมถึงแผนการรับมือด้านสิ่งแวดล้อม PM 2.5 ปัญหาน้ำท่วมที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นด้วย ทั้งนี้แม้ทีมงานจะใหม่กับเวทีแต่ทุกคนมีประสบการณ์การทำงานไม่ใช่มือใหม่และไม่กังวลแม้เจ้าของพื้นที่เดิมจะมีนายทักษิณมาช่วยมีผลงานมาก่อนหน้าก็ตามทางพรรคก็มีนายพิธาและทีมมาช่วยเต็มที่ ทั้งนี้นอกจาก 2 พรรคการเมืองดังกล่าวแล้วยังมีผู้สมัครอิสระมาสมัครวันนี้ด้วย

ด้านนายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่เผยว่าจากการซักซ้อมความพร้อมในด้านต่างๆกับกกต.อบจ.รวมถึงการเตรียมการเลือกตั้งครั้งนี้ยังเชื่อมั่นว่า ไม่มีอะไรกังวลในการจัดการเลือกตั้ง เชื่อว่าจะมีประชาชนมาใช้สิทธิ์มากกว่าครั้งที่ผ่านมาที่ 72% จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งกว่า 1.2 ล้านคนและขอให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิ์เพื่อเลือกผู้ที่จะมาบริหารที่ดีที่สุดเพื่อประชาชนชาวเชียงใหม่ ส่วนเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัครหลังปิดรับสมัคร กกต.จะใช้เวลาประมาณ 7 วันเพื่อตรวจสอบรับรองตามขั้นตอน ทั้งนี้แม้จะมีกระแสการแข่งขันที่สูงแต่เชื่อมั่นว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เพราะเชียงใหม่มีวัฒนธรรมที่ดีงามอีกทั้งไม่เคยมีประวัติเหตุรุนแรงเกิดขึ้นมาก่อน สิ่งที่ต้องเตือนผู้สมัครก็คือเรื่องของการใช้จ่ายในการหาเสียงการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการเลือกตั้งต่างๆซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแลให้ความเข้มข้น หากประชาชนพบเบาะแสการกระทำผิดก็สามารถแจ้งได้ทันที 

เช่นเดียวกับนายมงคล สุกใส ประธานกกต.อบจ.เชียงใหม่ยืนยันว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งสถานที่บุคลากรในการรับสมัครครั้งนี้และการเลือกตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ที่จะใช้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเลือกตั้งกว่า 2,700 หน่วยกว่า 30,000 คน ก็ไม่มีปัญหาอะไร