News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
“15 ปี อุทยานหลวงราชพฤกษ์”
“15 ปี อุทยานหลวงราชพฤกษ์”
• สถานที่ท่องเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ยั่งยืนของประเทศ มีมาตรฐานระดับนานาชาติ
• แหล่งรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
• มุ่งสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืนในปี 2570 และเป็นพื้นที่ต้นแบบการจัดการสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืน
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามให้กับสถานที่แห่งนี้ว่า “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2553 เพื่อเป็นสวนของพ่อที่นับเป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้ขนาดใหญ่ พื้นที่ดำเนินงานกว่า 468 ไร่
มีพันธกิจเป็นแหล่งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับโครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการหลวงและการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืน แหล่งเรียนรู้ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม ด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี รวมทั้งให้บริการพื้นที่เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่
1) แหล่งรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมาอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ได้ต่อยอดและรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทรัพยากรพรรณไม้นานาชนิดจำนวนมากกว่า 23,000 รายการ มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก
- ได้รับรองมาตรฐานสวนพฤกษศาสตร์ระดับสากล BGCI Botanic Garden Accreditation จาก Botanical Gardens Conservation International: BGCI ซึ่งเป็นเครือข่ายการอนุรักษ์พันธุ์พืชที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับที่ 3 ในการเป็นสวนพฤกษศาสตร์หรือสวนรุกขชาติที่มีมาตรฐานและดำเนินงานระดับมืออาชีพในด้านต่าง ๆ ของสวนรุกขชาติ (การวางแผนงาน การเข้าถึงโดยสาธารณะ การให้ศึกษาเรียนรู้ การดูแลปลูกเลี้ยง และการอนุรักษ์ไม้ต้น) จาก Arboretum Accreditation Program (ArbNet) ซึ่งเป็นเครือข่ายระดับนานาชาติของสวนรุกขชาติ
2) สถานที่ท่องเที่ยวเรียนรู้ธรรมชาติขนาดใหญ่ของประเทศที่มีมาตรฐานระดับนานาชาติ อุทยานหลวงราชพฤกษ์เป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิตที่พร้อมให้นักเรียน เยาวชน และประชาชนได้เข้ามาเรียนรู้ถ่ายทอดผ่านกิจกรรมได้รับประสบการณ์และจุดประกายทางความคิดผ่านการลงมือทำที่หลากหลายเพื่อให้ผู้เรียนรู้เกิดความเข้าใจและตระหนักถึงการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับรางวัลและได้รับรองมาตรฐานการเป็นแหล่งเรียนรู้แหล่งรวบรวมความหลากหลายทางชีวภาพทั้งในระดับประเทศและนานาชาติอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- รางวัล Hall of Fame (รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยประเภทแหล่งท่องเที่ยว สาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผลงานที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม จำนวน 3 ครั้ง ติดต่อกัน เพื่อเป็นเกียรติและสะท้อนถึงความใส่ใจในการยกระดับและรักษาคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและบริการพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ ซึ่งอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในสาขาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2562 (กินรี ครั้งที่ 12) ปี พ.ศ. 2564 (กินรี ครั้งที่ 13) และ พ.ศ. 2566 (กินรี ครั้งที่ 14)
- รางวัลดีเด่น Thailand Tourism Silver Awards ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน
- ผ่านการรับรองมาตรฐานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating ที่ผ่านการรับรอง 16 เป้าหมาย (จากทั้งหมด17 เป้าหมาย)
- รางวัลตราสัญลักษณ์ G-Green ระดับประเทศ ระดับดีเยี่ยม G ทอง สำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Office) ปี 2566
- โรงแรมราชพฤกษ์เพลซ (Rajapruek Place) ได้รับรางวัล “Green Hotel 2567” ระดับดีเยี่ยม (เหรียญทอง)
3) มุ่งสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืนในปี 2570 และเป็นพื้นที่ต้นแบบการจัดการสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืน ได้การรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) และการรับรองให้เป็นองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2567 (Climate Action Leading Organization: CALO) มีการดำเนินการด้านลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การใช้รถรางไฟฟ้าสำหรับชมสวน รถไฟฟ้าเอนกประสงค์ เครื่องตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ไฟฟ้า ฯ การติดตั้งโซล่าเซลล์ การจัดการขยะ การผลิตและการใช้ประโยชน์จากปุ๋ยหมักและไบโอชาร์จากการตัดแต่งต้นไม้ การลดการใช้ทรัพยกรสำนักงาน เป็นต้น ศึกษาวิจัยการจัดการไม้ยืนต้นเพื่อเพิ่มศักยภาพการดูดกลับและการกักเก็บคาร์บอนในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ได้ประเมินการกักเก็บคาร์บอนในมวลชีวภาพของต้นไม้และพื้นที่สีเขียวจากต้นไม้มากว่า 11000 ต้น เพิ่มพื้นที่ปลูกป่าชุมชนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน กว่า 26 ไร่
ในปี 2568 นี้ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ยังได้เพิ่มจุดชมนิทรรศการและจุดชมสวนใหม่อยู่หลายจุดที่ใครมาแล้วต้องห้ามพลาด ในแต่ละช่วงฤดูร้อน (เดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2568) อาทิ
1) ถ้ำกล้วยไม้ ชมบรรยากาศของถ้ำโฉมใหม่ที่เต็มไปด้วยภาพวาดจิตรกรรม "กล้วยไม้ไทย" อาทิ กล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ ทั้งสายพันธุ์เอื้อง เอื้องสาย เอื้องสามปอย แวนด้าฟ้ามุ่ย ฯลฯ ที่มีความแปลกตาไม่เหมือนใคร ทั้งการวาดแบบภาพ 3 มิติเสมือนจริง ที่ผู้เข้าชมได้จัดมุมถ่ายและยังมีความน่าค้นหาซ่อนอยู่ภายใน และยังมีห้องที่จำลองเป็นถ้ำเรืองแสงที่ให้ชมบรรยากาศยามค่ำคืนของธรรมชาติ เสมือนว่าเราอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สมบูรณ์ยามค่ำคืน ก็จะมีแสงจากสิ่งมีชีวิตบินรอบๆ ตัวเรา เช่น ผีเสื้อกลางคืน หิ่งห้อย ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ *ถ้ำกล้วยไม้อยู่ในบริเวณเรือนกล้วยไม้ * พร้อมชมความหลากหลายของกล้วยไม้ทั้งพันธุ์แท้และพันธุ์ลูกผสม รวมทั้งดอกเอื้องเมืองเหนือที่พร้อมบานสะพรั่งในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายนของทุกปีในเรือนกล้วยไม้
2) Bug World อาคารโลกแมลงที่ได้ปรับโฉมใหม่พร้อมให้ทุกท่านได้ค้นหาความมหัศจรรย์และศึกษาพฤติกรรมแปลกๆ ของแมลงหลากหลายชนิดทั้งในรูปแบบนิทรรศการและในรูปแบบสื่อมัลติมีเดีย อีกทั้งยังมีโซนที่ได้ใกล้ชิดและสัมผัสความน่ารักของแมลงมีชีวิตท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ และยังมีสนามเด็กเล่นพื้นที่สร้างสรรค์ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้สนุกสนานและเรียนรู้ผ่านเครื่องเล่นที่หลากหลาย ได้สัมผัสธรรมชาติ ใกล้ชิดทั้งพืช และดิน เสริมสร้างพัฒนาการและจินตนาการอย่างเต็มที่ และยังมีร้าน HRDI CAFE2 ร้านกาแฟใหม่สไตล์มินิมอลสีขาวที่โอบล้อมด้วยสนามหญ้าสีเขียว บรรยากาศริมน้ำสุดผ่อนคลาย มีทั้งโซน Indoor และ Outdoor ให้ทุกท่านได้นั่งจิบกาแฟจากเมล็ดกาแฟดีจากยอดดอยบนพื้นที่สูง พร้อมชมต้นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า, ต้นโกโก้ที่ได้ปลูกประดับรอบๆ ร้านกาแฟ
3) Sky Walk ชมวิวสวยๆ ฟินๆ แบบ 360 องศากับความสวยงามที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงฤดูแถมได้ความรู้เกี่ยวกับพรรณไม้ตลอดเส้นทางเดิน นักท่องเที่ยวสามารถเดินตั้งแต่ 'เรือนร่มไม้' ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้หายากกว่า 400 สายพันธุ์ เชื่อมต่อทางเดินไปยังจุดชมวิวมุมสูง หรือจะนั่งพักผ่อนใจไปกับต้นไม้และวิวภูเขาสีเขียวขจี เซลฟี่มุมสูงกับแปลงรวบรวมสายพันธุ์กุหลาบและยังมีทางเดินเส้นทางใหม่ที่ทอดยาวลงมาจนถึงโดมกุหลาบที่รวบรวมสายพันธุ์กุหลาบถึงกว่า 200 สายพันธุ์ เมื่อสุดเส้นทางก็ยังสามารถเดินชมป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง และทุ่งดอกไม้ที่สวนพรมบุปผา อีกทั้งยังมีสวนสมุนไพรที่จัดแสดงสมุนไพรท้องถิ่นและสมุนไพรจากต่างประเทศ
4) พืชทะเลทราย ที่รวบรวมพรรณพืชกลุ่มพืชทะเลทรายและไม้อวบน้ำไว้กว่า 1,500 ชนิด อาทิ อากาเว่เตกีล่า สับปะรดหนาม ยูโฟร์เบียเชิงเทียน จามาคารู อัลลูออเดีย แคคตัส ฯลฯ พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ เสมือนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายในบรรยากาศสุดชิลล์
5) สวนนานาชาติประเทศภูฎาน นับว่าเป็นอีกหนึ่งสวนนานาชาติที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ซึ่งได้นำช่างฝีมือดีจากประเทศภูฏาน เข้ามาปรับปรุงสถาปัตยกรรมทำให้เกิดความมีเอกลักษณ์แบบต้นฉบับจากประเทศภูฏานโดยเฉพาะ ภายในจัดแสดงในบรรยากาศเน้นความสงบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม ความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ภายในยังมี ‘พระศรีศากยมุนี’ : ช่วยในเรื่องสุขภาพ ไร้โรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์ภูฏานให้ได้กราบสักการะขอพรกันอีกด้วย
6) ชมไม้กลุ่มสี Highlights สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น
ชมไม้กลุ่มสี ได้แก่ เดือนมีนาคม 2568
• กัลปพฤกษ์ ดอกสีชมพู-ขาว ฉายาซากุระเมืองไทย
• เหลืองอินเดีย ดอกสีเหลือง
• ทรัมเป็ตสายพันธุ์ใหม่ เฉดสีเหลือง-ม่วง
เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568
• อินทนิล ดอกสีม่วง-ขาว
• ราชพฤกษ์และคูนขาว
• หางนกยูงฝรั่ง
กิจกรรมเด่นที่ไม่ควรพลาด
1) ในช่วงวาเลนไทน์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้เนรมิตสวนสวยและจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ
- สัมผัสบรรยากาศแห่งรักท่ามกลางดอกกุหลาบหลากสีสันที่ได้เนรมิตพื้นที่จัดแสดงและรวบรวมสายพันธุ์กุหลาบกว่า 200 สายพันธุ์ เพื่อเป็นจุดเรียนรู้และจุดชมดอกกุหลาบสวยๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเก็บภาพความงดงามตลอดเดือนกุมภาพันธ์
- สวยสะพรั่งไปกับ “ประดู่แดง” ไม้กลุ่มสีที่กำลังเริ่มทยอยผลิบาน โชว์ความสวยงามของกลีบดอกสีแดงสดใสบริเวณลานประดู่แดงติดกับสวนพรมบุปผา หรือจะถ่ายมุมบน Sky walk ก็สวยไม่แพ้กัน จะมองวิวต้นประดู่แดงจาก Sky Walk หรือเดินเล่นชมบรรยากาศตามลานประดู่แดงก็ได้ แถมมีมุมถ่ายรูปกับทุ่งดอกซัลเวียเห็นวิวประดู่แดงด้านหลัง ถ่ายรูปมุมไกล มุมใกล้ก็ดูดีสุดๆ รับรองว่าได้รูปสวยปังไว้ลงโซเชียลแน่นอน
- หวานฉ่ำไปกับความสวยงามของ “ดอกทิวลิป” หลากสีสันกว่า 2,000 ต้น ไม่ว่าจะเป็นสีชมพูอ่อน ชมพูเข้ม ขาว เหลือง และสีส้ม ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด มาจัดแสดงในครั้งนี้ สามารถชมได้ตั้งแต่วันที่ 11-18 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เรือนไม้ดอก
- โกโก้ สื่อรัก .. ชมอุโมงค์ต้นโกโก้ และบอกรักเป็นภาษาโกโก้ โดยการเขียนคำสารภาพรักหรือความในใจถึงคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็น คนรัก ครอบครัว หรือถึงเพื่อนบนลูกโกโก้ได้ พร้อมถ่ายรูปกับต้นโกโก้ที่สวยเก๋ไม่ซ้ำใคร ณ สวนไม้ผล ตรงข้ามกับอาคารโลกแมลง
- สัปดาห์สมุนไพร ภายใต้แนวคิด "อาหารเป็นยา" ระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2568 ภายในงานพบกับกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้การใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพร อาทิ จัดแสดงพืชสมุนไพรในแปลง นิทรรศการสมุนไพรบนพื้นที่สูง, นิทรรศการสมุนไพรใกล้ตัว สมุนไพรรสยา 9 รส ร่วมสนุกไปกับกิจกรรม Walk Rally เช่น การตรวจสุขภาพด้วยธาตุเจ้าเรือน, กิจกรรมนวด ตอก พอก , ดองสมุนไพรและพฤกษศาสตร์เคมีสมุนไพรไทย ชมบูธแสดงผลิตภัณฑ์สมุนไพรของหน่วยงานอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีงานเสวนาวิชาการและกิจกรรม Work shop ให้ได้ร่วมสนุกกันและรับความรู้อีกมากมาย ณ สวนสมุนไพร
- กิจกรรม Cupid Run มูเตรัน 2025: Episode (โสด) 2 วิ่งไป มูไป เสริมดวงความรักในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2568 กิจกรรมดีๆ สำหรับคนรักสุขภาพที่วิ่งไปก็ชุ่มชื่นหัวใจไปด้วย เพราะตลอดเส้นทางวิ่งในอุทยานหลวงราชพฤกษ์จะได้ชมความสวยงามของไม้ดอกนานาพรรณตลอดเส้นทาง พิเศษกับเส้นทางวิ่งผ่านดอกกุหลาบและต้นประดู่แดงที่กำลังบานสะพรั่งในช่วงนี้และยังมีจุดขอพรตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสวนที่สายมูไม่ควรพลาด
- กิจกรรมดอกไม้กินได้ ระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2568 ชมสาธิตและร่วมทำเมนูรสชาติแห่งมวลดอกไม้ อาทิ เมี่ยงคำบุปผา เมนูเครื่องดื่มดอกไม้สุดพิเศษจากร้าน HRDI CAFE กิจกรรมเสวนาหัวข้อ Garden to Table: Edible Flowers พร้อมองค์ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้กินได้ที่ผลิบานอยู่ในอุทยานหลวงราชพฤกษ์
2) รู้..สู้ฝุ่น PM2.5 ตลอดเดือนมีนาคม 2568
• องค์ความรู้เกี่ยวกับ Net Zero
เขียนเมื่อ 06 กุมภาพันธ์ 2568 16:38:18 น. (view: 11918)