News & Activity

ข่าวและกิจกรรม

ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน เชียงดาว เดินหน้าขับเคลื่อนเปลี่ยน “ภาระ” ให้กลายเป็น “พลัง” สานฝันผู้พิการสู่คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าร่วมสร้างสังคมไทยที่ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง “No One Left Behind”ทุ่มงบ 150 ล้าน เนรมิตเป็นทั้งศูนย์เรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว tour

เชียงใหม่ 24 ม.ค.- ที่ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ศาสตราจารย์ วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ นำคณะสื่อมวลชนดูความคืบหน้าของการดำเนินงานในศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่เปิดมาได้ 1 ปี เน้นการสร้างหรือฝึกอาชีพให้กับผู้พิการอย่างเหมาะสมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และเปลี่ยนผู้พิการที่ถูกมองว่าเป็นภาระให้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังที่สำคัญในการพัฒนาประเทศได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ  



ปัจจุบันศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ได้อบรมอาชีพให้คนพิการมาต่อเนื่อง 2 รุ่น 287 ครอบครัว ให้สามารถก้าวพ้นความยากจนได้ มีอาชีพอิสระที่มั่นคง ยั่งยืน และเป็นอาชีพที่ทำได้จริงด้วยตนเอง ใช้พื้นที่น้อย ลงทุนต่ำ รายได้ดี ที่สำคัญเมื่อทำแล้วต้องขายได้ มีรายได้เพียงพอกับการดูแลตนเองและคนในครอบครัว และได้มีการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของผู้พิการขึ้นมาภายใต้แบรนด์ “ยิ้มสู้” เพื่อสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้พิการ โดยปัจจุบันได้นำสินค้าเข้าวางจำหน่ายในห้างแม็คโครในเขตจังหวัดภาคเหนือและมีแผนที่จะขยายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งการสนับสนุนสินค้าต่างๆ ภายใต้แบรนด์ยิ้มสู้ ก็เท่ากับกว่าประชาชนคนไทยทุกคนจะได้มีส่วนในการช่วยเหลือผู้พิการด้วย ตอนนี้ก็กำลังต่อยอดในการพัฒนาเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้ ฝึกอาชีพให้คนพิการ คนด้อยโอกาส แล้วเป็นที่ท่องเที่ยวแบบ tourism for all ทำอาคารรวมที่พักแบบรีสอร์ท 2 หลังรองรับผู้มาเที่ยวและนอนพักคืนละประมาณ 100 คน มีคนพิการที่ได้รับการฝึกอาชีพด้านการโรงแรมมีส่วนร่วมในการให้บริการ





สำหรับจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างในการฝึกอบรมด้านอาชีพของศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนก็คือ เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อ “คนพิการ ผู้แลคนพิการ และครอบครัวของผู้พิการ”เป็นหลักสูตรอาชีพที่ใช้เวลาการฝึกอบรมนานที่สุด โดยใช้เวลาในการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติอีก รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน หรือ 100 วัน ทำให้สามารถมีรายได้รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน โดยผู้พิการสามารถทำได้จริงด้วยตนเอง ใช้พื้นที่น้อย ลงทุนต่ำ กำไรดี ขายดี จึงเป็นที่มาของการฝึกอาชีพ 3 ด้านคือการเพาะเลี้ยงจิ้งหรีด เพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน และการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งเป็นอาชีพที่มีรอบการผลิตต่ำใช้เวลาเพียง 45 วัน และมีความต้องการของตลาดสูง รวมไปถึงอาชีพอื่นๆ ที่ผู้พิการสามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้เช่นการปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงไก่ไข่ เป็นต้น





ศาสตราจารย์วิริยะ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการจัดโครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind” เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่คนตาบอดปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 867 กิโลเมตร เพื่อระดมทุนก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นจำนวน 150 ล้านบาท ซึ่งในครั้งนั้นทางมูลนิธิฯ ได้รับยอดเงินบริจาคจากการจัดกิจกรรมทั้งสิ้นกว่า 32 ล้านบาท ดังนั้นในปีนี้จึงได้จัดกิจกรรม “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2” ขึ้นเป็นปีที่ 2 อย่างต่อเนื่อง เพื่อระดมทุนบริจาคในการนำไปใช้ก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนให้แล้วเสร็จ โดยจะมีคนตาบอดจำนวน 22 คนและอาสาสมัคร 22 คน ร่วมกันปั่นจักรยาน จากกรุงเทพฯ ถึงศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผ่าน 15 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครราชสีมา ลพบุรี สระบุรี อยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี และนครปฐม ในระหว่างวันที่ 9 - 22 กุมภาพันธ์ 2562 รวมทั้งสิ้น 14 วัน ระยะทางรวม 1,500 กิโลเมตร โดยในแต่ละจังหวัดจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้คนในสังคมเห็นศักยภาพของผู้พิการและให้โอกาสผู้พิการในการพัฒนาตนเองเพื่อเป็นพลังในการพัฒนาสังคมต่อไปในอนาคต.

เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2562 14:23:30 น. (view: 5805)

รูปภาพ-เอกสารประกอบ




FM100 CMU Logo
สถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน คณะการสื่อสารมวลชน

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 239 ถ.ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ 50200

Call us

On air : 053-942711-2
Office : 053-942710

Email & Fax

EMAIL : fm100@cmu.ac.th
          fm100cmu@yahoo.com

LINE :  FM100CMU 

 

ช่องทางการรับเรื่องร้องเรียน ความคิดเห็นจากสาธารณะเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานีวิทยุเสียงสื่อสารมวลชน
https://forms.gle/e4E3rYTnv3LvxcxN8

ติดตาม FM100 ได้ทุกช่องทาง

รับฟังรายการสดได้ทาง