News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เร่งดำเนินโครงการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถและคุณภาพการให้บริการ ในปี 2563 โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่จอครถยนต์ พร้อมยอมรับการระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ จำนวนผู้โดยสารปัจจุบันลคลงเกือบร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อ
เรืออากาศโท ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทชม.ทอท) กล่าวในโอกาสครบรอบ 32 ปี การดำเนินงานของท่าอากาศยานเซียงใหม่ ว่าท่าอากาศยานเซียงใหม่ มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี แต่จากจำนวนผู้โดยสารในปี 2561 ที่สูงกว่า 11 ล้านคน ส่งผลให้เกิดความแออัดและสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอในบางช่วงเวลา ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้คำเนินการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ขยายพื้นที่การให้บริการ และบริหารจัดการเส้นทางเดินของผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกรวดเร็วมากที่สุด ภายไต้คุณภาพการให้บริการในระดับสากลและมาตรฐานความปลอดภัยขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) มาโดยตลอด และในปี 2563 มีงานบรรเทาความแออัดและงานพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถและคุณภาพการให้บริการ ที่สำคัญ ได้แก่งานก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์สัมปทาน ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่าร้อยละ 50 คาคว่าจะแล้วเสร็จ
และเปิดให้บริการในเดือนกันยายน 2563 ซึ่งจะสามารถองรับการจอดรถยนต์ได้ 1,300 คัน งานก่อสร้างอาคารอเนกประสงศ์ ซึ่งจะประกอบด้วยพื้นที่เชิงพาณิย์ 3 ชั้น และพื้นที่จอดรถยนต์ 400 คัน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมิถุนายน 2563
โครงการปรับปรุงพื้นที่บริเวณจุดตรวจค้นผู้โดยสาร เพื่อแก้ปัญหาความแออัดของจุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกและจุดตวจหน้งสือเตินทาง อาคารผู้โดยสาระหว่างประเทศ โดยจะเพิ่มพื้นที่หน้าจุดตรวจค้นสำหรับผู้โดยสารและพนักงาน เพิ่มพื้นที่และจำนวนเคาน์เตอร์จุดตรวจหนังสือเดินทาง และแยกช่องทางเข้าออกเฉพาะของเจ้าหน้าที่เพื่อลดการปะปนของเจ้าหน้าที่กับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
ส่วนสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ได้มีการก่อสร้างพื้นที่ห้องคัดกรองผู้โดยสาร เพื่อคัดกรองและกักกันผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศ
ต้นทางที่มีการระบาดของโรคติดต่อร้ายแรง ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ที่มีเป้าหมายรองรับผู้โดยสาร 165 ล้านคน
ซึ่งเดิมจะเริ่มดำเนินการในปี 2563-2565 นั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental
Impact Assessment: ElA ) เพิ่มเติมในบางประเด็น คาดว่าจะเริ่มดำเนินการตามแผนในปี 2565
สำหรับผลการดำเนินงานของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ในปี 2562 (มกราคม ถึง ธันวาคม 2562) พบว่า
ปริมาณการจราจรทางอากาศ มีอากาศยานพาณิชย์ ขึ้นลง 79,529 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากปี 2561
ร้อยละ 1.69 มีเที่ยวบินเฉลี่ย 220 เที่ยวบินต่อวัน มีจำนวนผู้โดยสาร 11.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 3.17 เฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างประเทศมีประมาณ 3.23 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.92 ในจำนวนดังกล่วเป็นผู้โดยสารชาวจีนถึงกว่า 1.69 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ประมาณร้อยละ 19
มีปริมาณการขนถ่ายสินค้า 12,567 ตัน ลดลงจากปี 2561 ร้อยละ 15.72
และจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVD-19 ตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2562 เป็นต้นมา ส่งผลให้จำนวน
เที่ยวบินและผู้โดยสารลดลงจำนวนมาก ซึ่งจำนวนเที่ยวบินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 เหลือเพียงวันละ 190 เที่ยวบิน ลดลงร้อยละ 24 และจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 22,000 คน ลดลงเกือบร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับช่วงเตียวกันของปี 2562 และหากแนวโน้มการระบาดของไวรัส C0VID-19 ยาวนานไปถึงกลางปี คาคว่าจำนวนผู้โดยสารในช่วง 6 เดือนแรกของปี จะอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านคน ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับ 6 เดือนแรกของปี 2562 ที่มีจำนวน 5.74 ล้านคน เกือบร้อยละ 40 และคาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2563 จะมีผู้โดยสารประมาณ 9 ล้านคน ลดลงไป 2 ล้านคนจากปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามการที่จำนวนผู้โดยสารลดลง ทำให้ความคับคั่งแออัดของผู้ใช้บริการลดลง ซึ่งท่าอากาศยานเชียงไหม่ จะใช้ช่วงเวลานี้ในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อพร้อมให้บริการหลังจากสถานการณ์คสี่คลายต่อไป
เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2563 05:35:17 น. (view: 10336)