นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่กักตัวเองที่บ้านตามระบบ home quarantine และไปเยี่ยมประชาชนที่กักตัวเองตามระบบ local quarantine ในพื้นที่ตำบลฟ้าฮ่าม และที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากมีประชาชนที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยมีการสอบถามอาการ ความเป็นอยู่ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง

            ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายในการดูแลผู้ที่ต้องกักกันโรคเป็นเวลา 14 วัน ทั้งคนไทย และคนต่างชาติ ที่เดินทางมาจากประเทศที่กลุ่มเสี่ยง รวมถึงมีอำนาจตามกฏหมายในการกักกันโรคสำหรับคนกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสจะแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ โดยใช้กลไกชุมชนของแต่ละจังหวัดดำเนินการ ทั้งชุมชนและ อสม.จะเข้าไปดูแลสอดส่องให้ผู้ที่กักกันโรคมีความเข้าใจ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก หากผู้ที่ถูกกักกันจะปฏิบัติตัวให้ปลอดภัย และอดทนในช่วง 14 วัน ในการแยกตัวเองออกมา เพราะการควบคุมโรคระบาดที่ดีที่สุดไม่ใช่ควบคุมโดยทีมแพทย์ แต่เป็นการควบคุมโดยการระมัดระวังตัวเองและความร่วมมือของทุกภาคส่วน มีสำนึกรับผิดชอบที่จะไม่ก่อให้เกิดโอกาสแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งกลุ่มบุคคลเหล่านี้ ไม่ใช่คนป่วย แต่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดอย่างหนัก  ส่วนข้อสงสัยเรื่องจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 ของประเทศไทย ยืนยันว่าเป็นข้อมูลจริง ไม่มีเหตุผลที่จะปกปิด และนายกรัฐมนตรีก็เป็นห่วงเรื่องนี้ หลักการสำคัญก็คือการกักกันโรคเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่บ้าน ที่ภูมิลำเนาของตัวเอง แต่หากบางคนมีสถานที่ไม่พร้อม รัฐก็จะจัดหาให้ 

            โอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรี ได้พบปะพูดคุยกับอาสาสมัคร จิตอาสา และประชาชน ที่มาช่วยกันจัดทำหน้ากากอนามัยแบบผ้า เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลฟ้าฮ่ามด้วย