News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นำบทเรียนจากกรุงเทพมาปรับใช้ กำชับให้ตรวจจับควันดำและฉีดพ่นล้างถนน หวังลดปัญหาหมอกควันในตัวเมือง ด้าน สสจ.เชียงใหม่ แนะวิธีดูแลสุขภาพและป้องกันผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และPM2.5
นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำให้ประชาชนระวังสุขภาพจากฝุ่นละออง ซึ่งในปัจจุบันกรุงเทพฯ กำลังประสบกับปัญหาจากฝุ่นละอองที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ประเทศไทย และอีกส่วนหนึ่ง คือ มลพิษที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมในเขตปริมณฑลกรุงเทพฯ รวมทั้งเรื่องของรถที่ใช้น้ำมันดีเซลในการขับขี่ เป็นส่วนที่ทำให้เพิ่มปริมาณของฝุ่นละอองขึ้นได้ และในการนี้ทางจังหวัดได้วางแผนจัดขอรถฉีดน้ำจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ หรือหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจะทำการฉีดน้ำล้างผิวถนน เพื่อที่จะฉีดล้างฝุ่นละอองที่ฉาบอยู่บนผิวถนนในเวลากลางคืนได้ลงไปสู่ท่อระบายน้ำ และเพื่อไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายตัวออกมาในช่วงเช้า พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ขนส่งและจราจรเร่งตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับรถยนต์ควันดำที่ยังวิ่งบนท้องถนนเป็นปกติ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถบรรทุก และรถยนต์ส่วนบุคคลในพื้นที่เขตตัวเมือง โดยขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการรณรงค์ทำความเข้าใจกับประชาชนและผู้ประกอบกิจการให้ระงับการเผาพืชไร่หรือชีวมวล ซึ่งทุกพื้นที่ต้องแจ้งมาให้ชัดเจนว่าจะเผา หากไม่มีเหตุผลอันควรก็จะไม่อนุญาตให้เผา โดยเฉพาะในเขตป่าสงวนและพื้นที่ทางการเกษตรที่ต้องมีการจัดระเบียบการเผาอย่างจริงจัง
ด้าน นายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญมาตรการการดูแลสุขภาพประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งวิธีป้องกันกลุ่มคนทั่วไปและคนที่มีความเสี่ยงในช่วงที่มีปัญหาหมอกควัน ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยใช้วิธีดูแลสุขภาพของตนเองด้วย 5 มาตรการ "หลีก ปิด ใช้ เลี่ยง ลด" คือ 1. หลีกการสัมผัสฝุ่นละอองโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก ผู้ที่มีโรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด 2. ปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด ป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงทำความสะอาดบ้านทุกวัน 3. ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่น หรือใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดป้องกันฝุ่น 4. เลี่ยงการออกกำลังกายหรือทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน และ 5. ลดการใช้รถยนต์ ลดการเผาขยะและลดการเผาไหม้ในพื้นที่การเกษตร
ทั้งนี้ ผลกระทบอาจเกิดขึ้นกับคนทั่วไป และเกิดขึ้นกับผู้ที่มีความเสี่ยง จึงต้องระมัดระวัง และควรสังเกตอาการตนเอง สำหรับผู้ที่ต้องรับประทานยาควบคุมอาการประจำ ควรรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง จัดเตรียมยาที่จำเป็นไว้ให้พร้อม หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที รวมทั้งได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่สื่อสารแจ้งเตือน ให้ความรู้ สร้างความตระหนักแก่ประชาชน พร้อมทั้งแนะนำการใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง สำหรับ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ หรือพื้นที่ที่จะเดินทางไป ได้จากเว็บไซต์ Air4Thai ของกรมควบคุมมลพิษ หรือ ThaiVisual หรือ www.cmuccd.org ของศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งใกล้บ้านท่าน หรือกลุ่มงานอนามัยและสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-211048 ต่อ 124
เขียนเมื่อ 06 กุมภาพันธ์ 2562 10:56:45 น. (view: 10336)