นายแพทย์กิตติพันธุ์ ฉลอม นายแพทย์ชำนาญการ สำนักระบาดวิทยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุด ว่า วันนี้  (1 เม.ย.63) จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิง อายุ 26 ปี อยู่ร่วมห้องกับผู้ป่วยยืนยัน PUI 592 มีอาการไม่มาก ขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อแยกตัวออกมา จนกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อ จึงจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้มีผู้สัมผัสใกล้ชิดจำนวน 2 ราย ขณะนี้ได้เข้าสู่การกักตัว ให้ครบ 14 วัน เพื่อติดตามอาการแล้ว

     กรณีของผู้ป่วยยืนยัน PUI 566 เพศชาย อายุ 56 ปี ทางจังหวัดฯ ได้มีการปรับจำนวนผู้ป่วยในจังหวัดเชียงใหม่ให้สอดคล้องกับในภาค เขต และประเทศ ซึ่งจากข้อมูลการสอบสวนโรค พบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าว มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดเชียงราย และพักอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายตลอดตั้งแต่กลับจากสหราชอาณาจักร จนกระทั่งป่วย จึงได้ขับรถมาหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ป่วยรายนี้จึงเป็นยอดของจังหวัดเชียงราย เพื่อไม่ให้ยอดซ้ำซ้อนและเกิดความสับสนกับประชาชน ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ อยู่ที่ 34 ราย เป็นกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ระบาด จำนวน 8 ราย กลุ่มผู้สัมผัสร่วมบ้านผู้ป่วยยืนยัน จำนวน 3 ราย และกลุ่มมีประวัติเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 23 ราย

    ขณะที่ พลตำรวจตรี พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงถึงกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่นประพฤติตัวไม่เหมาะสม ที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ว่า เกิดจากญาติของกลุ่มวัยรุ่นประสบอุบัติเหตุ และได้มาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์ และเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาส่งผู้บาดเจ็บไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย จึงได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมในช่วงสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาด โดยเฉพาะเมื่อเดินทางมายังโรงพยาบาลซึ่งเป็นสถานที่เสี่ยง แต่กลุ่มวัยรุ่นไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ และประพฤติตนไม่เหมาะสม มีการแสดงเชิงสัญลักษณ์ มีการรวมตัวกันในเชิงต่อต้าน หลังจากได้มีการเผยแพร่ภาพในสื่อโซเชียวมีเดียต่างๆ แล้ว ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 10 ราย และได้เชิญตัวผู้ปกครองทั้งหมดมาเพื่อทำทัณฑ์บน ตามกฎหมาย พรบ. คุ้มครองเด็ก รวมทั้งให้คำแนะนำ คำชี้แจงในการปฏิบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากพบเห็นการวมตัวกันที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง