News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ร่วมกับ17 จังหวัดภาคเหนือและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมถอดบทเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือหวังเป็นฐานข้อมูลจริงในการปฏิบัติงานปี 64
วันที่ 8 พ.ค.63 เวลา 09.00 น.พลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค เป็นประธานการประชุมถอดบทเรียน การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ ร่วมกับ 17 จังหวัดภาคเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการประชุมระบบทางไกลผ่านจอภาพ ที่ห้องประชุมค่ายกาวิละ มทบ.33 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
แม่ทัพภาคที่ 3 /ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคกล่าวว่า วันนี้กองทัพภาคที่ 3 ประชุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในการถอดบทเรียนในเรื่องของการเตรียมการแก้ไขไฟป่าหมอกควันสำหรับในปีหน้า เนื่องจากปีนี้เราปฏิบัติงานในฐานะระดับภาคที่ได้รับความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสรุปนำเรียนผ่านทางกองทัพบก
ทั้งนี้ความคิดว่าถ้าประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเอาสรุปบทเรียนในแต่ละปีมาแก้ไขปัญหาน่าจะคลี่คลายลง อย่างไรก็ตามการแก้ไขยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ เนื่องจากปัญหาที่ผ่านมาไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร ซึ่งต้องทบทวนว่าในแต่ละหน่วยงานติดขัดเรื่องอะไร
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการทำงานปีนี้เราใช้ความร่วมมือร่วมกันจะเห็นว่า มีช่างภาพประชาสังคมทั้งจิตอาสาและทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำงาน อาจจะมีบางจุดที่เร็วบ้างช้าบ้าง ในส่วนของกองทัพให้การสนับสนุนกำลังพลและยุทโธปกรณ์อากาศยานเป็นหลัก ซึ่งทราบว่าทุกหน่วยมีข้อมูลอยู่แล้ว ในปีหน้าถ้าเจ้าของพื้นที่ดำเนินการเองปัญหานี้ก็จะเบาลงกว่าปีนี้ ทั้งเรื่องคนที่อยู่กับป่า เรื่องกฎหมายหรือการใช้อำนาจบังคับที่จะให้ทุกหน่วยงานเข้ามาร่วมกันทำงาน การแก้ไขปัญหาน่าจะดีขึ้น
สถานการณ์หมอกควันไฟป่าพื้นที่ภาคเหนือจะเริ่มมีผลกระทบ ม.ค.- เม.ย. ของทุกปี ทภ.3 ได้จัดตั้ง บก.คฟป.ทภ.3 สน. ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 62 เพื่อบูรณาการแผนงานของ 9 จว. และ เชื่อมประสานกับหน่วยงานส่วนกลางแต่เนิ่นๆ โดยใช้การประชุม VTC ทุกสัปดาห์ เป็นการขับเคลื่อนส่วนกลางและ จว.ซึ่งเป็นปีแรกที่สามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ ต.ค. 62 โดยงานที่สำคัญการให้แต่ละจังหวัดชี้แจงแผนการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยเฉพาะการสร้างการรับรู้, การบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยไม่เผา การตรวจสอบผู้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่า, เมื่อเกิดสถานการณ์หมอกควันไฟป่า ต้องเข้าแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การดับไฟ, การควบคุมพื้นที่, การเตรียมพื้นที่ปลอดภัย ซึ่ง กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าได้ให้หน่วยขึ้นตรงศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 เตรียมการจัดชุดดับไฟป่าสนับสนุน เมื่อ จังหวัดร้องขอ ทั้งนี้เนื่องจากสภาพความแห้งแล้งปีนี้เริ่มตั้งแต่ ธ.ค. 62 ต่อเนื่องมา และสภาพภูมิประเทศในพื้นที่เป็นแอ่งกระทะประกอบกับความกดอากาศสูงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ม.ค. ทำให้ค่าคุณภาพอากาศเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาในห้วงเวลาเดียวกัน จะเกิด ค่าคุณภาพอากาศ กระทบมากกว่าปีที่แล้ว
ในส่วนของการใช้อากาศยานสนับสนุน เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ มีการนำเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ก (BT-67) จาก ทอ. (ตั้งแต่ 16 – 27 มี.ค. 63) ใช้ในการโปรยน้ำสร้างความชุ่มชื้นลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 23 เที่ยวบิน ปริมาณน้ำ 69,000 ลิตร เครื่องบินฝึกแบบ 41 (บ.ฝ.41) ทำการบินลาดตระเวนทางอากาศ รวม 44.30 ชั่วโมง ตลอดจนการเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปแบบ 72 (ฮ.ท.72) (ตั้งแต่ 1 ก.พ. 63 ) ทำการบินลาดตระเวนทางอากาศ รวม 34.24 ชั่วโมง รวมถึงการใช้ชุดอากาศยานไร้คนขับ (UAV) จาก ทบ. ทำการบินลาดตระเวนทางอากาศ พร้อมแสดงผลแบบ Real Time (ตั้งแต่ 19 เม.ย. 63) จำนวน 42.25 ชั่วโมงบิน ตรวจพบไฟป่า จำนวน 141 เป้าหมาย
เขียนเมื่อ 08 พฤษภาคม 2563 11:15:50 น. (view: 10337)