วันนี้ (11 ส.ค. 63) นายนิตินัย สาสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษา ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ซึ่งดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2561-2567 โดยมีเป้าหมายรองรับผู้โดยสาร 16.5 ล้านคนต่อปี หรือเพิ่มขึ้นสองเท่า จากปัจจุบันที่มีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี โดยมีโครงการสำคัญหลายโครงการ อาทิ งานก่อสร้างทางขับขนานเส้นใหม่พร้อมทางขับออกด่วน เพื่อให้สามารถรองรับเที่ยวบินเพิ่มจาก 24 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 29-31 เที่ยวบินต่อชั่วโมง งานก่อสร้างและปรับปรุงลานจอดอากาศยานจาก 20 หลุมจอด เป็น 31 หลุมจอด โดยเป็นหลุมจอดประชิดอาคาร 12 หลุมจอด และหลุมจอดระยะไกล 19 หลุมจอด พร้อมติดตั้งสะพานเทียบเพิ่มเติม 6 ชุด และระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ พื้นที่ 70,000 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้ 5.3 ล้านคนต่อปี งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ พื้นที่ 48,000 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสารได้ 11.2 ล้านคนต่อปี งานก่อสร้างอาคารสำนักงาน และงานปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค รวมถึงระบบถนนการจราจรภายในท่าอากาศยาน

สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระยะที่ 1 นั้น ปัจจุบันยังคงอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) เพิ่มเติมในบางประเด็น โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาเดิม และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลให้จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารลดลงจำนวนมาก โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 - 30 กรกฎาคม 2563 มีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 2.5 ล้านคน ซึ่งลดลงเกือบร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปี 2562 และภายหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการผ่อนคลายเป็นระยะ ๆ ทำให้มีการเดินทางภายในประเทศเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ โดยปัจจุบันมีเที่ยวบินให้บริการวันละประมาณ 100 เที่ยวบิน ผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 11,000-12,000 คน จากปกติมี 220 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 30,000 คนต่อวัน