News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
กสอ. ร่วมกับอุทยานวิทย์ฯ มช. โชว์ผลสำเร็จปั้นสตาร์ทอัพ Pitching หวังสร้างโอกาสร่วมทุนเสริมแกร่งธุรกิจเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 500 ล้านบาท
ที่โรงแรมเลอเมอลิเดียน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้จัดให้มีการมอบรางวัล ให้กับผู้ชนะ Startup Pitching Challenge โครงการเร่งการเติบโตของผู้ประกอบการจากกระบวนการ Spin-Out และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ที่มีศักยภาพสูง (SMEs Spin-Out to Tech Startup) โดยมีนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้สืบเนื่องจากที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ร่วมกับ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมแข่งขันการ Pitching Challenge ภายใต้โครงการ “เร่งการเติบโตของผู้ประกอบการจากกระบวนการ Spin-Out และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ที่มีศักยภาพสูง (SMEs Spin-Out to Tech Startup)” ชิงเงินรางวัลกว่า 5 แสนบาทเพื่อส่งเสริมให้ SMEs และ Startup ของภาคเหนือตอนบนได้แสดงศักยภาพและยกระดับทางธุรกิจ ผ่านกลไกการสนับสนุนให้สามารถรังสรรค์แพลทฟอร์มใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์สังคมในมิติต่าง ๆ ได้ อีกทั้งสร้างโอกาสความสำเร็จด้วยการเชื่อมต่อให้ผู้มีความพร้อมและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมได้ในอนาคต โดยมีผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วม จำนวน 123 กิจการ มีผู้ผ่านเกณฑ์การตัดสิน จำนวน 12 กิจการ เพื่อนำเสนอผลงานกับคณะกรรมการในรอบสุดท้าย และมีผู้ประกอบการที่มีความโดดเด่นชนะการแข่งขันได้รับโล่รางวัล จำนวน 3 กิจการ ได้แก่ 1. ทีม Ocare Corporate Wellness (บริษัท โอแคร์ เฮลท์ ฮับ จำกัด) ได้รับรางวัลชนะเลิศ ด้วยผลงานการเป็นสตาร์ทอัพ สายเทคโนโลยีสุขภาพที่ช่วยองค์กรดูแลและส่งเสริมสุขภาพแก่บุคลากรในองค์กรด้วยระบบประมวลผลข้อมูลสุขภาพที่ช่วยบันทึก วิเคราะห์ และรายงานผล Corporate Wellness Analysis 2. ทีม Smile Migraine (บริษัท สไมล์ ไมเกรน จำกัด) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ผลงานเป็นสตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีสุขภาพที่สร้างแพลมฟอร์มและแอพลิเคชั่น เพื่อช่วยติดตามพฤติกรรมการรักษาผู้ป่วยโรคไมเกรน ด้วยการจดบันทึกอาการปวดศีรษะผ่าน headache diary และพัฒนาระบบประมวลผลด้วย AI learning technology ผ่าน Migraine analyzer และ 3. ทีม DEKDESIGN (ห้างหุ้นส่วนจำกัด เดกดีไซน์) รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 โดยพัฒนาแพลตฟอร์มเว็บแอพพลิเคชั่นเพื่อเชื่อมโยงระหว่าง นักเรียนศิลปะที่ต้องการเรียนรู้ด้านศิลปะผ่านสื่อการสอนศิลปะออนไลน์ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลทั้ง 3 กิจการ จะได้รับโอกาสในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้มีแผนในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้ามาใช้บริการที่ทางกรมส่งเสริมอุตสากรรมได้จัดเตรียมไว้ อาทิ การจัดตั้ง “บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด” หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd. ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเป็นแพลตฟอร์มกลางครบวงจร ในการเชื่อมต่อกับระบบนิเวศสากล เพื่อช่วยผลักดันกลุ่มสตาร์ทอัพไทยไปสู่ระดับสากล พร้อมโอกาสในการได้รับการลงทุนจากนักลงทุนภาคเอกชนที่กรมส่งเสริมฯได้ทำความร่วมมือแล้ว เช่น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซีจี จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (มหาชน) นอกจากนี้ ยังสามารถประสานความร่วมมือกับ Hong Kong Cyberport จากประเทศฮ่องกง หน่วยงานส่งเสริมสตาร์ทอัพของอิสราเอล เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรมอย่างแท้จริง โดยคาดว่า จะจัดกิจกรรมนี้ขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ ในระยะเวลาอันใกล้นี้
ทั้งนี้อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากผลการดำเนินโครงการฯ คาดว่าภายใน 3 ปี ด้วยศักยภาพของสตาร์ทอัพทั้ง 12 กิจการ จะสามารถสร้างรายได้รวมไม่น้อยกว่า 360 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานแบบ Skilled Labor จำนวน 200 อัตรา คิดเป็นมูลค่า 50 ล้านบาท และสามารถระดมเงินทุนจากนักลงทุน (Venture Capital) ที่สนใจลงทุนได้มากกว่า 100 ล้านบาท (หรือ ประมาณ 5 กิจการ)
โดยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมกว่า 500 ล้านบาท
ขณะที่ ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวมั่นใจว่าจากความสำเร็จดังกล่าวจะนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงานในพื้นที่ และทำให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเล็งเห็นถึงโอกาสในการเร่งสร้างผู้ประกอบการในรุ่นที่ 2 เพื่อเปิดทางให้ผู้ประกอบการที่สนใจได้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะเป็นการขยายโอกาสในการเติบโตของผู้ประกอบการในพื้นที่ให้มีความเข้มแข็งผ่านกระบวนการที่ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจัดขึ้นต่อไป
เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2562 16:23:46 น. (view: 10336)