News & Activity
ข่าวและกิจกรรม
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงย้ำเตือนมาตรการป้องกันโควิด-19
วันที่ 4 พ.ย. 63 ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงถึงมติการประชุมของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 60/2563 ว่า สถานการณ์ทั่วโลกวันนี้ยังพบผู้ติดเชื้อทั่วโลก รวม 47,844,811 ราย เสียชีวิตสะสมทั่วโลก 1,220,224 ราย โดยพบว่า สหรัฐเมริกา ยังมียอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 9,692,528 ราย รองลงมา คือ อินเดีย 8,312,947 ราย บราซิล 5,567,126 ราย ตามลำดับ ส่วนในทวีปเอเชีย ประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งเมียนมาและมาเลเซีย ในส่วนของประเทศเวียดนาม ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เริ่มพบผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ 10 กว่าราย และโดยภาพรวมสถานการณ์ในประเทศเมียนมานั้นยังคงมีความรุนแรงอยู่ โดยรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดอยู่ที่ย่างกุ้ง ยะไข่ บาโก มัณฑะเลย์ และอิรวดี ส่วนรัฐฉานใต้ซึ่งมีชายแดนติดกับจังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อสะสม 80 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
“สถานการณ์ฝั่งยุโรปยังพบว่า มีการกลับมาระบาดอีกครั้งในหลายๆ ประเทศ เนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทั้งรัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี เยอรมนี โปแลนด์ พบผู้ติดเชื้อวันละหลายหมื่นคน โดยประเทศอังกฤษได้ประกาศนโยบายล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เพื่อควบคุมการระบาดที่รุนแรง เช่น ผับ บาร์ และร้านอาหาร จะถูกปิดเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ แต่ยังสามารถให้บริการแบบซื้อกลับบ้านได้ ขณะที่โรงเรียน สถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัย ยังคงสามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ เช่นเดียวกันกับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่สามารถจัดต่อไปได้ แต่ประชาชนจะพบปะคนที่ไม่ได้เป็นครอบครัวเดียวกันกลางแจ้งได้ครั้งละ 1 คน” หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อฯ กล่าว
ดร.ทรงยศฯ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในประเทศ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 147 ของโลก โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 7 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้ากักกันตัวอยู่ใน State Quarantine ทั้งหมด ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,804 ราย เสียชีวิต 59 ราย สวนสถานการณ์ในจังหวัดเชียงใหม่ยังคงตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อยังอยู่ที่ 41 ราย และไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม
ดร.ทรงยศฯ กล่าวต่อว่า ในการประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ มีมติอยู่ 4 เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่อง ความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้มีความพร้อมในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงไปแล้วจำนวน 7,628 ราย เป็นต่างด้าว 1,528 ราย อาชีพเสี่ยง 3,654 ราย ทั้งหมดไม่พบผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ทางหน่วยงานราชการได้เตรียมสถานที่กักกันตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินรับรองจำนวน 4 แห่ง และผ่านการประเมินแล้วจำนวน 1 แห่ง โดยขณะนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่มี ALQ ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวแล้วจำนวน 229 เตียง สามารถรับนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศความเสี่ยงต่ำได้แล้ว ในส่วนของ 5 อำเภอชายแดนได้มีแผนรองรับและสถานที่กักกันตัวกรณีพบบุคคลต่างด้าวลักลอบเข้ามา หรือกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ รวมทั้งมีการลาดตระเวนตามแนวชายแดน ในส่วนของภาคการค้าและธุรกิจในจังหวัดโดยเฉพาะ WE LOVE CHIANGMAI ได้ให้ความร่วมมือในการเตรียมความพร้อมครั้งนี้เป็นอย่างดี
“เรื่องที่ 2 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อมก๋อย เร่งดำเนินคดีกับผู้ที่พาบุคคลต่างด้าวเข้าเมืองกรณีแรงงานชาวเมียนมา 43 คนที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ อ.อมก๋อย และชาวจีน 19 คนที่จับได้ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ และให้ดำเนินคดีผู้ที่กระทำผิดอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างในการกระทำผิดต่อไป พร้อมทั้งให้มีการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินคดีให้ทราบโดยทั่วไป” หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อฯ กล่าว
สำหรับเรื่องที่ 3 ยังคงขอความร่วมมือให้สถานประกอบการทุกแห่ง และหน่วยงานต่าง ๆ เคร่งครัดในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เช่น การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และสแกนแพลตฟอร์มไทยชนะ โดยที่ทำการปกครองจังหวัดจะทำหนังสือขอความร่วมมือให้แต่ละหน่วยงานไปอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่ 4 มาตรการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีคำสั่งมอบให้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด, รองยแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) มีอำนาจในการเปรียบเทียบปรับได้แล้ว ดังนั้นต่อไปหากหน่วยงานหรือบุคคลใดไม่ปฏิบัติตามที่เจ้าพนักงานโรคติดต่อแนะนำก็จะถูกดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่จังหวัดนั้นได้เลย
.
“ทั้งนี้ขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกท่านการ์ดอย่าตก และขอให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยแอลกอฮอล์เจลหรือสบู่ เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร และหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด เป็นต้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19” ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ กล่าว
เขียนเมื่อ 04 พฤศจิกายน 2563 19:47:56 น. (view: 10337)